ยูนิโคล่ เดินหน้าธุรกิจยั่งยืน ร่วมลดขยะพลาสติกโลก
พันธกิจด้านความยั่งยืนของบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด บริษัทแม่ของ ยูนิโคล่ ประเทศไทย กับการ “ปลดล็อกพลังแห่งเสื้อผ้า” ควบคู่ปรัชญา LifeWear ที่ต้องการส่งมอบเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ พร้อมกับการทำให้สังคมดีขึ้นทั้งในด้านผู้คน ชุมชน และโลก ยังคงเดินหน้า แม้กิจกรรมและธุรกิจบางอย่างจะสะดุดไปบ้างในช่วงการแพร่ระบาดหนักของโควิด-19
ขณะนี้ยูนิโคล่ ได้เดินหน้าต่อ โดยเฉพาะการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลดปริมาณขยะพลาสติก “จันทร์จิรา ตอชะกุล” ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า จากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ยังคงรุนแรงทั่วโลก ฟาสต์ รีเทลลิ่ง มีเป้าหมายในการลดปริมาณการหยิบยื่นพลาสติกใช้แล้วทิ้งของลูกค้าภายในร้านลง 85% ภายในปี 2563 หรือประมาณ 7,800 ตันต่อปี ยูนิโคล่ ประเทศไทย จึงสนับสนุนให้ลูกค้าหันมาใช้ถุงผ้า Eco Bag ซึ่งทำมาจากผ้าฝ้าย ที่ผลิตด้วยวิธีการยั่งยืนและได้การรับรองจากองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร Better Cotton Initiative (BCI) และตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมนี้ ยูนิโคล่จะงดให้บริการถุงพลาสติกสำหรับใส่สินค้า และเปลี่ยนมาใช้ถุงกระดาษทั้งหมด
ถุงกระดาษที่ยูนิโคล่จะนำมาใช้นี้ เป็นถุงที่ทำมาจากกระดาษรีไซเคิลที่ผ่านการรับรองจากการจัดการป่าไม้ FSC (Forest Stewardship Council) ซึ่งจะจำหน่ายให้ลูกค้าราคาถุงละ 2 บาท โดยบริษัทจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายถุง มอบให้แก่มูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (WARF) เพื่อนำไปสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย
พร้อมกันนี้ ยูนิโคล่ยังนำนวัตกรรมลดปริมาณนํ้าที่ใช้ในกระบวนการผลิตยีนส์ มาผลิตเป็น “กางเกงยีนส์ยูนิโคล่” โดยได้พัฒนานวัตกรรมนี้ที่ศูนย์นวัตกรรมยีนส์ (Jeans Innovation Center) ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมี “เสื้อโปโล DRY-EX” ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี เป็นเสื้อที่ทำจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล ด้วยนวัตกรรมที่ช่วยทำให้เหงื่อแห้งได้เร็ว และยังรีไซเคิลสินค้า “ดาวน์ขนเป็ด” ซึ่งร้านค้ายูนิโคล่ในหลายประเทศทั่วโลก ได้เปิดรับผลิตภัณฑ์ดาวน์ขนเป็ดที่ลูกค้าไม่ใช้แล้ว นำมาเข้ากระบวนการรีไซเคิล นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยยูนิโคล่เตรียมวางจำหน่ายสินค้าดาวน์ขนเป็ดที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลในฤดูหนาวที่จะถึงนี้
นอกเหนือจากความพยายามลดการใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้คลิปเสื้อเชิ้ต ป้ายบอกขนาด และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการขนส่ง รวมทั้งเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ในร้านยูนิโคล่ ช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณ 20-50%
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,598 วันที่ 6 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2563