SEAC ถอดรหัส 3 เคล็ดลับ ออกแบบชีวิตและอาชีพ

นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียนกล่าวว่า SEAC เชื่อว่าทางรอดสำคัญสู่การทำงานในโลกทศวรรษใหม่ คือ เรื่องการปรับ Mindset (วิธีคิด) และเปลี่ยนSkillset (ทักษะ) ในการทำงาน โดยเฉพาะปัจจุบัน เราทุกคนไม่สามารถคาดเดาถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวแปร ทั้งรูปแบบธุรกิจใหม่ การสื่อสารรูปแบบใหม่ หรือการเชื่อมโยงกันในระดับโลกที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น 

สิ่งเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Drivers of Change) ที่มีส่วนสำคัญต่อการผลักดัน ให้ทุกคน “ต้องมี” วิธีคิดและทักษะใหม่ๆ เพื่อสร้างความสามารถในการพัฒนาและสร้างผลลัพธ์ให้เกิดตามที่ต้องการ 

SEAC ได้ถอดรหัส 3 เคล็ดลับการออกแบบชีวิตและอาชีพในอุดมคติ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างความสำเร็จ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าแม้จะเรียนมาไม่ตรงสายก็สามารถทำงานที่เราฝันได้ อีกทั้งทุกวันนี้ใบปริญญาอาจไม่สำคัญเท่ากับความสามารถในการทำความเข้าใจตนเอง สังคม และโลกที่เปลี่ยนไปเพื่อให้เราออกแบบชีวิต และอาชีพ ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและทักษะได้ตามความต้องการ

เคล็ดลับที่ 1 – อย่ารอให้การทำงานมาเปลี่ยนชีวิตเรา เราสามารถเลือกวิถีชีวิตและเลือกงานได้

• Technology & Life Integration – เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในทุกมิติของการใช้ชีวิต ก็ต้องรู้จักเลือกวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

• Work & Life Integration – ต้องบริหารจัดการเวลา เพื่อให้เกิดการบูรณาการของการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม

• Design Your Own Career – เราสามารถออกแบบชีวิต ออกแบบการทำงานได้ด้วยตัวเอง แต่อาจต้องเริ่มจากการตั้งคำถามสำคัญกับตนเอง เช่น คนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องเริ่มจากการตั้งคำถามว่าอยากทำงานในอุตสาหกรรมแบบไหน และทักษะตัวไหน บ้างที่จำเป็นในการทำงานนั้นๆ 

สำหรับคนที่เป็นฟรีแลนซ์ ต้องบอกตัวเองอยู่เสมอว่า อย่าหยุดอยู่แค่บทบาทหรืออาชีพเดียว เพราะความต้องการของลูกค้าทุกวันนี้เปลี่ยนเร็วมาก เราต้องหาวิธีเพิ่มคุณค่าในตัวเอง และสำหรับคนที่พึ่งจบใหม่ สิ่งที่ต้องทำคือต้องฝันให้ใหญ่ กล้าที่จะล้ม พร้อมเปิดใจเรียนรู้ว่าต้องการอะไรในชีวิตและงานใดที่จะพาเราไปสู่ความฝันนั้น

เคล็ดลับที่ 2 – วิธีคิดที่ชอบ ทักษะที่ใช่ ทำให้เราไปได้ไกลกว่าเดิม แบะเพื่อให้เข้าใกล้สู่จุดมุ่งหมายนั้นๆ คือการเลือกวิธีคิด (Mindset) ที่ชอบ ที่จะช่วย รวมถึงการมีทักษะ (Skillset) ที่ใช่สำหรับอนาคตที่เราอยากมี หรืออยากเป็น

วิธีคิด (mindset) คือ 5 มายด์เซ็ตที่ประกอบด้วย

• Growth Mindset – คือความเชื่อที่ว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่สามารถพัฒนาได้ตลอดชีวิต เป็นอะไรก็ได้ตามที่ใจอยาก มีศักยภาพด้านใดก็ได้ถ้ามีความทุ่มเทและความพยายามมากพอ

• Outward Mindset – คือวิธีคิดที่ช่วยให้เราเปิดกว้างในเรื่องการเรียนรู้ กละทำความเข้าใจ การมีวิธีคิดเช่นนี้จะทำให้เราเห็นความสำคัญของทุกคน เห็นผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้จากคนมากหน้าหลายตา 

• Learning Mindset – เป็นรูปแบบวิธีคิดที่เชื่อว่ามีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะสร้างแรงผลัก ลุกขึ้นมาท้าทายตัวเองเพื่อให้พัฒนาและเกิดการเรียนรู้ จนสามารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่สูงและดีกว่าเดิม  

• Agile Mindset – ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรค แต่กลับมองเรื่องอุปสรรคความท้าทายต่างๆ เป็นส่วนหนึ่ง                           ของการเรียนรู้ เชื่อว่าการทำงานและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ความพยายามในการปรับแก้ พร้อมหาแนวทางใหม่ๆ จะนำไปสู่ทางออก และคำตอบใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้

• Curious Mindset – คือวิธีคิดแบบที่ต้องเอาตัวเองไปสู่โลกภายนอกที่เราไม่คุ้นเคย เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเพิ่มนิสัยอยากรู้อยากเห็นและกล้าเผชิญความท้าทาย

นอกจาก 5 วิธีคิด ที่ช่วยสร้างความสำเร็จแล้ว ต้องให้ความสำคัญกับทักษะที่จำเป็นต้องมีด้วย เติมเต็มและพัฒนา(Evolving)ทักษะอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านความรู้ เทคนิค วิชาการ (Hard Skills) หรือ ทักษะทางสังคมหรือด้านอารมณ์ (Soft Skills)

เคล็ดลับที่ 3 – เทคนิคปรับวิธีคิด เปลี่ยนทักษะ

มายด์เซ็ตกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในเรื่องการพัฒนาคน การพัฒนามายด์เซ็ตก็เท่ากับเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

เช่นเดียวกับ การพัฒนาเรื่องทักษะความสามารถที่ต้องอาศัยการฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ประกอบกับต้องReskill และการ Upskill

เคล็ดลับทั้ง 3 ข้อนี้เปรียบเสมือนเป็น ทางลัดในการออกแบบชีวิตและอาชีพของคุณให้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างสำเร็จในแบบที่ต้องการ หากแต่ตัวเราเองนั้นก็ต้องหมั่นบริหาร Mindset (วิธีคิด) และ Skillset (ทักษะ) อย่างต่อเนื่อง ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน