ตลาดหลักทรัพย์นำทัพ 14 องค์กรย่านรัชดา ทำ 'ขยะล่องหน'

21 พ.ย. 2562 | 11:44 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ​ นำทัพ 14 องค์กรย่านรัชดา ตื่นตัว ร่วมกับ 12 ธุรกิจเพื่อสังคม และบริษัทพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลังลดโลกร้อน กำจัดขยะย่านรัชดา ในโครงการ Care the Whale: Climate Action Collaboration @Ratchada District ด้วยแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน เริ่มตั้งแต่วิธีคิดและพฤติกรรม ไม่ทำให้เกิดของเหลือใช้ ของเหลือทิ้ง สร้างไลฟ์สไตล์ใหม่คนไทย ทำให้ “ขยะล่องหน” ไม่สร้างมลภาวะ

ตลาดหลักทรัพย์นำทัพ 14 องค์กรย่านรัชดา ทำ 'ขยะล่องหน'

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับบริษัท ศูนย์การค้า ที่พักอาศัย ย่านรัชดา และธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) สร้างปรากฎการณ์ความเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ Care the Whale: Climate Action Collaboration @Ratchada District ปฏิรูปกระบวนการจัดการขยะ ด้วยแนวคิด “ขยะล่องหน” โดยเริ่มที่ “ตัวเรา” ปลูกฝังความคิดใหม่ ไม่มีคำว่า “ขยะ” สร้างวิธีคิด และพฤติกรรมที่คำนึงถึงส่วนรวม เพื่อให้ชุมชนรัชดาเป็นพื้นที่ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมสมดุล และเชื่อมต่อการแปรรูปของเหลือใช้ ไปสู่ของใช้ใหม่ ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

ความร่วมมือในครั้งนี้ นำร่องโดย 14 องค์กรย่านรัชดา ที่มีพนักงานรวมกว่า 3 หมื่นคน บนพื้นที่ร่วม 6 แสนตารางเมตร โดยมีจุดเริ่มต้นจากการทำให้ขยะล่องหน จัดการของเสียอย่างไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม 

"คนในย่านรัชดา จะเป็นต้นแบบ เป็นพลังหลักในการขยายแนวคิดนี้ ไปยังผู้มาเยือนย่านรัชดา ซึ่งในแต่ละเดือนมีมากถึง 1.3 ล้านคน โดยมีวาฬ เป็นตัวแทนของระบบนิเวศน์ ที่รอให้มนุษย์เข้ามาแก้ไขและสร้างความสมดุล" นายภากรกล่าว

ตลาดหลักทรัพย์นำทัพ 14 องค์กรย่านรัชดา ทำ 'ขยะล่องหน'

ในทางปฏิบัติ “Care the Whale ขยะล่องหน” ได้มีการสร้างเครื่องมือกลาง Care the Whale Calculator ช่วยในการคำนวณ-ทบทวน-ประมวล ผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการลดขยะต้นทาง เพื่อให้มองเห็นผลลัพธ์ ที่เป็นรูปธรรม และเป็นประโยชน์ในการออกแบบแผนดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ ลดการใช้ ลดการเกิดขยะ 

สำหรับการนำขยะไปแปรรูปหรือนำมาใช้ใหม่ และการกำจัดขยะ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรนอกย่าน ที่มีศักยภาพในการแปรรูปและกำจัดขยะอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การต่อยอด การเป็นย่านน่าอยู่ครบทุกมิติในอนาคต ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งเรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การสร้างความเข้มแข็งด้านความรู้ทางการเงิน และการท่องเที่ยวในเชิงเศรษฐกิจหมุนเวียน