WeWork รุกขยายพื้นที่2ทำเลใหม่มุ่งสร้างอีโคซิสเต็มรองรับผู้ประกอบการ

24 พ.ค. 2562 | 03:00 น.

WeWork เปิดตัว 2 โลเคชั่นที่อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ และทีวัน พร้อมฉลองก้าวสำคัญของ WeWork Labs แพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรม ที่อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ เล็งขยายกิจการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แรงสนับสนุนของเครือข่ายระดับโลก  

นายทูโรฮาส “ที” ฟูวาด กรรมการผู้จัดการใหญ่ WeWork เปิดเผยว่า  WeWork แพลตฟอร์มสำหรับนักสร้างสรรค์ ที่มีทั้งพื้นที่ ชุมชน และบริการ ได้ขยายตัว เปิด 2 ทำเลใหม่ของ WeWork ที่สาทร ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญในกรุงเทพฯ ณ อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ ตามด้วย WeWork บนอาคารทีวัน ทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่ทันสมัยและสร้างสรรค์ที่สุดแห่งหนึ่ง โดยที่เอเชียเซ็นเตอร์นั้น WeWork มีพื้นที่ทั้งหมด 5 ชั้นเพื่อต้อนรับสมาชิกจำนวน 1,200 คน ในขณะที่ WeWork ที่อาคารทีวันมีพื้นที่ 7 ชั้นสำหรับสมาชิก 1,700 คน พร้อมเปิดตัว WeWork Labs รองรับการก้าวเข้าสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่อยู่บนรากฐานของการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้เทคโนโลยีของไทย WeWork มีความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรกับประเทศไทย เพื่อการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ “ประเทศไทย 4.0” ด้วยการเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโฉมตลาดระดับกลาง ด้วยการปรับใช้นวัตกรรมมากขึ้น ในการเพิ่มประสิทธิภาพ

WeWork ขยายธุรกิจออกไปมากขึ้น ทำให้เห็นศักยภาพมหาศาลในการตอบความต้องการของลูกค้าธุรกิจขนาดไมโคร ขนาดเล็กและขนาดกลาง ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ที่จัดอันดับโดยฟอร์จูน 500 ที่มองมายัง WeWork ในการหาโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ สำหรับพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นและมีคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจในอีโคซิสเต็มไทยที่ขับเคลื่อนด้วยเครือข่ายระดับโลก

เป้าหมายของ WeWork คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในไทย ด้วยจุดแข็งด้านเครือข่ายระดับโลกของ WeWork การเข้าสู่ตลาดในศูนย์กลางของกรุงเทพ จะทำให้ย่านธุรกิจนี้เชื่อมโยงกับศูนย์กลางนวัตกรรมและชุมชนสร้างสรรค์ได้มากขึ้น ตามความตั้งใจของ WeWork ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย “ประเทศไทย 4.0” โดยการประสานความเชี่ยวชาญของ WeWork ด้านการออกแบบ เทคโนโลยี และชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกในประเทศและระดับภูมิภาค WeWork ทั้ง 2 แห่ง คืือ อาคารเอเชียเซ็นเตอร์และอาคารทีวัน ตอบรับสมาชิกทั้งที่เป็นบริษัทระดับโลก วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม สตาร์ทอัพ และคนทำงานอิสระ 

“WeWork มีแผนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยพื้นที่รวม 19 แห่ง และสมาชิกกว่า 13,000 คนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพียงแค่หนึ่งปีที่ผ่านมา การเข้ามาสู่ตลาดในประเทศไทยของ WeWork เป็นครั้งแรกนี้ เป็นการยืนยันถึงกลยุทธ์ใหญ่ของ WeWork ในระดับภูมิภาคทั้งที่สิงคโปร์ โฮจิมินห์ซิตี้ มะนิลา จาการ์ตา และกัวลาลัมเปอร์”

ปัจจุบัน WeWork เอเชียเซ็นเตอร์เป็นที่ทำงานของสมาชิกในหลากหลายสาขา เช่น มีจีเนียส (MeGenius) ผู้พัฒนา  AIYA (AI-Your Assistance) แชทบอทและระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM Chat bot)  ในขณะที่ WeWork บนอาคารทีวันมีสมาชิกอย่างเช่น วงใน (Wongnai) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มยอดนิยมบนโทรศัพท์มือถือด้านอาหารและไลฟสไตล์

ส่วน WeWork Labs ที่เอเชียเซ็นเตอร์ เป็นแหล่งเพิ่มขีดความสามารถนวัตกรรมรุ่นใหม่ และมีศักยภาพในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศสำหรับสตาร์ทอัพให้ดีขึ้นด้วย accelerators  ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมของธุรกิจ และพันธมิตรทางธุรกิจ

นอกจากบริการหลากหลายสำหรับนวัตกรรมทั้งที่ให้แก่สตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง ผู้เร่งอัตราการเติบโตของธุรกิจ (accelerators) ผู้บ่มเพาะธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น (incubators) และกองทุนร่วมลงทุน (VCs) รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ WeWork Labs ยังมอบทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจของสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งให้เติบโต WeWork Labs ยังเป็นพันธมิตรกับ accelerators และ incubators รวมทั้งกองทุนร่วมลงทุนเพื่อสร้างพันธมิตรที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจสตาร์ทอัพไปสู่ความสำเร็จรวมทั้งสร้างชุมชนที่เข้มแข็งภายในอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัพ

นายเอเดรียน ทาน ผู้อำนวยการ Labs ของ WeWork ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เติบโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กรุงเทพฯ จึงเป็นโลเคชั่นที่สองของ WeWork Labs ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงถึงสถานะของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสำหรับนักธุรกิจในประเทศและทั่วโลกที่สามารถสร้างศักยภาพและโอกาสให้แก่ภูมิภาคท่ามกลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มีความสำคัญมากขึ้น

“การมี WeWork Labs ทำให้เรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างอีโคซิสเต็มในประเทศผ่านแพลตฟอร์มเพื่อช่วยส่งเสริมและปลดล็อคศักยภาพของสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้นด้วยการจัดหาทรัพยากรเชิงกลยุทธ์เพื่อนำธุรกิจและความคิดสร้างสรรค์ไปสู่ระดับโลก”

สำหรับพื้นที่แต่ละแห่งนั้น จะมีผู้จัดการ Labs ประจำ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม ที่มุ่งเน้นความสำเร็จของสมาชิก โดยสมาชิกสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่หลากหลาย ตั้งแต่การเสวนาโต๊ะกลม การบรรยายไปจนถึงการประชุมแบบตัวต่อตัวและอื่นๆ อีกมากมายเพื่อความเข้าใจเรื่องการบัญชี การตลาด การจ้างงานและการนำเสนอให้แก่ผู้ลงทุนในอนาคต ในอนาคต WeWork Labs จะมุ่งสร้างโอกาสให้แก่พันธมิตร นักลงทุน และผู้ขายในประเทศเพื่อส่งเสริมการเติบโตด้านนวัตกรรมธุรกิจในอนาคตทั้งในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญของ WeWork Labs ในการพัฒนาขีดความสามารถและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจด้านนวัตกรรม เรามั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดระหว่าง NIA และ WeWork จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศนวัตกรรมในประเทศไทย ที่ผ่่านมาพบว่า สตาร์ทอัพไทยต้องการโอกาสใหม่ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และระดับโลก เพื่อดึงดูดการลงทุนและเปิดตลาดใหม่ๆ