ความสำเร็จที่ไร้กรอบ และไม่มีแบบแผน

28 เม.ย. 2562 | 04:00 น.

เรื่องของการคิดนอกกรอบ ทำอะไรที่แตกต่าง ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาของโลกยุคใหม่ แต่ยังไงเสีย คนที่คิดและทำได้ ก็ยังเป็นผู้ที่คว้าโอกาสดีๆ ได้อยู่นั่นเอง ซึ่ง “ดร.รพีรัฐ ธัญวัฒน์พรกุล” ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการองค์กร อาจารย์พิเศษ  วิทยากร นักจัดรายการวิทยุ และเจ้าของเพจ“มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่” ที่มีคนติดตามกว่า 3 แสนคน

“รพีรัฐ” เล่าว่า เขาจบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร มีประสบการณ์ทำงานมามากกว่า 20 ปี โดยทำงานในบริษัทต่างชาติในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี และระบบวิศวกรรมอาคาร และโครงการขนาดใหญ่ ความสำเร็จที่ไร้กรอบ  และไม่มีแบบแผน

ประสบการณ์ของผู้ชายคนนี้อาจไม่แตกต่างจากคนอื่น ที่เรียนสาขานี้แล้วไม่ชอบ ก็เปลี่ยนสาขาวิชาใหม่ แต่สาเหตุของการเปลี่ยนเกิดจากมุมมองและความคิดที่แตกต่าง ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่น่าสนใจ และสามารถนำประสบการณ์ที่มีมาเล่า และแนะนำคนอื่นได้เป็นอย่างดี ด้วยวิธีการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา “รพีรัฐ” บอกว่า ทุกครั้งที่เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เกิดจากความอยากรู้อยากลอง ตอนที่เรียนจบวิศวะ ก็ออกมาทำงาน แล้วก็ต่อโทวิศวะ และโทบริหารอีก 1 ใบ

ในระหว่างเรียน เขาเกิดความสงสัยว่า ตัวเองเรียนแล้วจะเป็นอย่างไร การเรียนมันมีทิศทางของมัน ทุกอย่างในการเรียน เกิดจากความสงสัย ก็เลยเรียนมาเรื่อยๆ เรียนปุ๊บ ก็นำสิ่งที่เรียนมาใช้ แต่ที่ได้ประโยชน์จริงๆ คือ การที่ได้เรียนรู้ระหว่างทางจากคนรอบๆ ข้าง คนเหล่านี้เหมือนเป็นเคล็ดลับวิชา ที่ทำให้สามารถเรียนลัดได้โดยแทบไม่ต้องอ่านหนังสือ โดยเฉพาะการเรียนในระดับที่สูงขึ้น ได้เจอคนที่เก่งกว่าเรามากขึ้น เมื่อเกิดความอยากรู้ หรือสงสัยอะไร ก็ถามคนเหล่านั้นตรงๆ แล้วก็นำมาทดลองใช้ต่อ

 

ต้องการความก้าวหน้า

ต้องกล้าที่จะลอง

“ผมเป็นคนอ่านน้อย เพราะผมต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ ...ในยุคนี้เราต้องตั้งคำถามตลอด ถ้าไม่รู้ เราต้องถามคนที่รู้ บางจังหวะเบา บางจังหวะหนัก จังหวะชีวิตเราต้องปรับ วิ่งเร็ว วิ่งช้าแล้วแต่เรา”

ความสำเร็จที่ไร้กรอบ  และไม่มีแบบแผน

นักคิดและนักทดลองคนนี้ บอกว่า ชีวิตช่วงเริ่มต้นของเขาค่อนข้างติดลบ เพราะบางครั้งเจอคนที่สบประมาทก่อนว่า คนอย่างเราไม่น่าจะทำแบบนี้ได้ ไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้ ถ้ามัวแต่ฟังคนเหล่านั้นพูด แล้วไม่ได้ลองทำ มันก็จบ หากต้องการความก้าวหน้า ก็ต้องกล้าที่จะลอง สิ่งสำคัญคือ เราต้องพยายามทำดูก่อน ถ้าได้และดีก็ทำต่อ ถ้าไม่ดีก็หยุด เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น เขายกตัวอย่าง ตอนที่สอบขอทุน ก็เจอคนสบประมาทอีกเช่นกันว่าไม่น่าจะทำได้ แต่เขาก็ลอง และก็ได้ทุนมา บทเรียนนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าเราคิดว่าไม่ได้ แล้วไม่ทำ ก็คือไม่ได้ แต่ถ้าคิดว่าไม่ได้ แล้วลองทำ แล้วเราได้ เราต้องลอง สูตรที่ 1 สูตรที่ 2

สิ่งสำคัญที่ผู้ชายคนนี้บอกตัวเองเสมอคือ ทุกอย่างไม่มีทางตัน รวมถึงอาชีพ ก็ไม่มีทางตัน ถ้าเราจับเส้นทางของเราเจอ อาชีพเราไม่มีทางตัน ปัญหาทุกอย่างไม่มีทางตัน ที่มันตันเพราะเราทำให้มันตัน เราบอกตัวเราเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันก็คือ ไม่ได้ แต่ถ้าเราลองทำก่อน ถ้าไม่ได้ แล้วค่อยบอกว่ามันไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เขาคิดเสมอ ตอนที่ทำงานประจำ

เมื่อออกจากงานประจำ มาสู่เส้นทางอาชีพอิสระ เขาได้ใช้ประสบการณ์จากตอนทำงานประจำ หน่วยงานไหนที่เจ๊ง หน่วยงานไหนที่มีปัญหา เขามักจะถูกส่งไปแก้ไข แก้จากขาดทุนเป็นกำไร การที่ไม่เคยได้อยู่บริษัทที่นิ่งๆ ตรงนั้นจึงกลายเป็นต้นทุนชีวิตที่สำคัญ พอมาทำที่ปรึกษาธุรกิจ ก็มาทำหน้าที่แก้ปัญหาองค์กรต่างๆ แม้ตอนนี้จะมีคนรู้จักในวงแคบๆ แต่มันก็คือบันไดที่ทำให้ก้าวต่อได้ในอนาคต

“ทุกย่างก้าวที่เราทำงานประจำ มันมีความเป็นมืออาชีพอยู่เสมอ ถ้าเราสุดยอดในสิ่งที่เราทำ จะมีคนพาเราไปสู่จุดที่ดีกว่าขึ้นเอง”

ต้องอึดและถึกถึงจะสำเร็จ

“รพีรัฐ” ยอมรับว่า เขาไม่ได้มั่นใจในทุกเรื่อง หลายๆ เรื่องก็มีลังเลบ้าง แต่วิธีแก้ของเขา คือ การหาต้นแบบ ดูจากเจ้านายดีๆ หรือคนอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จ นำสิ่งดีๆ เหล่านั้นมาเป็นต้นแบบ แล้วปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง เหมาะสมกับสถานการณ์​ ดูว่ามีอะไรที่จะเติมเต็มช่องว่างใหักับตัวเราได้บ้าง เขาบอกเลยว่า ในยุคนี้ถ้ามัวแต่อ่านอย่างเดียว มันไม่ทันกับสถานการณ์ สิ่งที่ดีที่สุด คือ เรียนรู้จากคนรอบด้าน แล้วนำมาปรับใช้ เป็นช็อตคัตให้กับตัวเอง

“สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเลิกทำระหว่างทาง คือ แรงเสียดทานจากคนข้างๆ ทำไม่ได้ ทำไม่ดี จะทำให้เราเลิกทำ ทำไปเรื่อยๆ จนระเบิด เมื่อคนเห็นสิ่งที่เราทำ แล้วไปกระจายต่อ สิ่งที่ผมภูมิใจ คือ การทำให้คนที่เคยคิดไม่ดีกับงานประจำ หรือคิดที่จะลาออกจากงาน เปลี่ยนใจ รู้จักดูในอีกเส้นทางหนึ่ง ว่ามันมีมูลค่าเหมือนกัน เขาลืมมองสิ่งดีๆ ระหว่างทาง แต่กลับไปเก็บคำพูดของคน ที่พูดให้เราเจ็บชํ้านํ้าใจ แล้วก็ต้องลาออก ซึ่งมันมีอยู่เพียงไม่กี่คน”

ความสำเร็จในชีวิต รวมไปถึงการทำงาน มันคือความอึด และถึก โดยมีการเรียนรู้อย่างมีทิศทางจากคนที่เก่งกว่าเราเป็นอาหารเสริม สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนเราเดินไปได้ทุกเรื่อง ประกอบกับการทำงาน ต้องมีการผสมผสานบ้าง ต้องมีการรั่วบ้าง เพิ่มให้มีสิ่งใหม่ๆ ไหลเข้ามา บางครั้งบางสถานการณ์ต้องด้นสด ชีวิตมันไม่อะไรที่เพอร์เฟกต์ ไม่มีอะไรที่ต้องไปตามกรอบของอาชีพ ในยุคนี้เราต้องสร้างความแตกต่าง

“รพีรัฐ” ทิ้งท้ายว่า การเรียนรู้ไม่มีทางสิ้นสุด แต่เราต้องรู้ว่า จะเรียนเพื่อไปใช้ทำอะไร เพราะการเรียนรู้แบบไม่มีคำตอบ มันไม่มีทางเจอสิ่งที่เราต้องการ 

หน้า 22 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3464 วันที่ 25-27 เมษายน 2562

ความสำเร็จที่ไร้กรอบ  และไม่มีแบบแผน