ครม.ไฟเขียวสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองงบ 3.8 พันล.

08 ก.ย. 2559 | 07:00 น.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง สายสีทอง สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี -สำนักงานเขตคลองสาน-ประชาธิปก เพื่อเชื่อมต่อและเพิ่มการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนหลัก บรรเทาปัญหาจราจรในพื้นที่

โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดได้ศึกษารายละเอียด เพราะมีมติ ครม.เมื่อปี 2537 เรื่องการห้ามยุ่งเกี่ยวกับบางพื้นที่เนื่องจากถือเป็นการบดบังทัศนียภาพในเกาะรัตนโกสินทร์ในรัศมี 25 ตารางกิโลเมตร และต้องดูว่าการจะทำรถไฟใต้ดินในเขตเกาะรัตนโกสินทร์นั้นคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดกรอบว่าจะต้องกลับมารายงานที่ประชุม ครม.เมื่อใด แต่หากศึกษารายละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็สามารถกลับมาเสนอที่ประชุม ครม.อนุมัติได้ เนื่องจากกรุงเทพมหานครจะก่อสร้างเป็นทางยกระดับ

ด้านนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่ากทม.กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีทองได้ผ่านการเห็นชอบบรรจุไว้ในแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 เรียบร้อยแล้ว กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพดำเนินการ จะใช้ระบบนำทางอัตโนมัติ(ATT) แบบไร้คนขับ ระยะทางรวม 2.68 กม.แบ่ง 2ช่วงดำเนินการ วงเงินลงทุน 3,845 ล้านบาท

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีทอง แนวเส้นทางเริ่มต้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีกรุงธนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตามแนวถนนกรุงธนบุรี สู่ทางแยกกรุงธนบุรี-ถนนเจริญนคร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญนคร มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ผ่านแหล่งชุมชน ร้านค้า สถานศึกษา วัด ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม โรงแรมแล้วจึงเข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ไปสิ้นสุดโครงการก่อนถึงวัดอนงคารามวรวิหาร รวมระยะทาง 2.7 กิโลเมตร มีจำนวน 4 สถานี มีสถานีกรุงธนบุรี สถานีเจริญนคร สถานีคลองสาน และสถานีประชาธิปก ซึ่ง กทม.ได้ลงนามสัญญากับกลุ่มไอคอนสยามให้เข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นเงินราว 2,000 ล้านบาท จำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี, เจริญนคร และคลองสาน โดยให้เอกชนได้สิทธิการโฆษณาในบริเวณสถานีเป็นเวลา 30 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปลายปี 2560 ใกล้เคียงกับที่โครงการไอคอนสยามเปิดให้บริการ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,190 วันที่ 8 - 10 กันยายน พ.ศ. 2559