เครือศิริปันนา เผยราคาที่ดินเชียงใหม่หลังวิกฤติน้ำท่วมปรับขึ้น 100% เชื่อมั่นใจในศักยภาพเมืองคาดยังโตต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวบ้านหรู "เอกลักษณ์ สันทราย" สไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าระดับบน
นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการเครือศิริปันนา กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า มีการแข่งขันที่สูงมาก ขณะที่ราคาที่ดินก็ปรับตัวสูงถึง 100% โดยเป็นราคาที่ปรับขึ้นหลังปี 2554 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นราคาแบบไม่สมเหตุสมผลและไม่ใช่ราคาตลาดที่แท้จริง แต่หากจะเปรียบเทียบราคาที่ดินกับจังหวัดอื่นๆ เชื่อว่าราคาที่ดินของหัวเมืองใหญ่ ต่างมีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่จะเข้ามาพัฒนาโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ต้องประสบปัญหาเรื่องการหาซื้อที่ดิน
ขณะที่ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เป็นรายเล็ก-รายกลาง มีที่ดินสะสมทำให้เกิดความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนที่ดินต่อการพัฒนาโครงการ คาดว่าในระยะ 2 ปีนับจากนี้ ที่ดินในมือของผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ซื้อไว้จะถูกนำมาพัฒนาและจะเป็นผู้กำหนดราคาซื้อขาย ในส่วนของความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะผู้ประกอบการที่จะพัฒนายังมีการวางแผนพัฒนาไม่มาก
บางรายมีที่ดินแต่ใช้เวลาในการทำสำรวจว่าจะพัฒนาโครงการอย่างใด บางโครงการกว่าจะได้รับอนุมัติผังโครงการต้องใช้เวลา 2-3 ปี หรือบางโครงการได้รับใบอนุญาต แต่ไม่สามารถขายได้ จนต้องมีการขายโครงการพร้อมใบอนุญาต ทำให้โครงการที่ได้รับใบอนุญาตดำเนินการก่อสร้างไปเพียง 50% ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมพบว่าเริ่มมีภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี จึงจะสามารถปรับฐานตลาดได้
สำหรับเครือศิริปันนา ล่าสุดเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว เอกลักษณ์ สันทราย สไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ จำนวน 42 ยูนิต ขนาด 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 250 - 471 ตารางเมตร ราคา 9.89-24.5 ล้านบาท ประกอบด้วยแบบ 4 แบบ ได้แก่ แบบ M ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร ราคา 9.89 ล้านบาท, แบบ L1 ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 331 ตารางเมตร ราคา 16 ล้านบาท,แบบ L2 ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 340 ตารางเมตร ราคา 16.9 ล้านบาท และแบบ XL ขนาด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 471 ตารางเมตร ราคา 24.5 ล้านบาทโดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในระดับบน เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัจจุบันบ้านตัวอย่างได้ดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 90% คาดว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ภายใน 1-2 เดือน และจะสามารถปิดโครงการได้ภายใน 2 ปีโดยมีบริษัทมิตร เอสเตทส์ จำกัด เป็นเจ้าของโครงการ
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันอย่างโครงการพาราโน่ คอนโด แอท เชียงใหม่ มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านบาท จำนวน 185 หน่วย 8 ชั้น และโครงการแกรนด์ พาราโน่ มูลค่าโครงการกว่า 170 ล้านบาท จำนวน 55 หน่วย ปัจจุบันมียอดขายกว่า 90% คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้
สำหรับเครือศิริปันนา เติบโตจากธุรกิจโลจิสติกส์ ทำให้มีที่ดินอยู่ในครอบครอง จึงมีการต่อยอดธุรกิจด้วยการขยายการลงทุนสู่โรงแรม เริ่มจากโครงการโรงแรมศิริปันนา วิลล่ารีสอร์ทแอนด์สปา เชียงใหม่ เมื่อการบริหารโรงแรมเริ่มอยู่ตัว และแบรนด์ของบริษัทเป็นที่รู้จัก จึงแตกไลน์มาสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจนถึงวันนี้ก้าวสู่ปีที่ 7 และล่าสุดรุกอีกขั้นสู่ตลาดแนวราบ ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จังหวัดเชียงใหม่ที่มีความรุนแรง เพราะมีกลุ่มทุนทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่นต่างเปิดโครงการเป็นจำนวนมาก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,182 วันที่ 11 - 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559