"แสนสิริ" รั้งแชมป์ แบรนด์อสังหาฯ ทรงพลัง 2020

02 ธ.ค. 2563 | 08:46 น.

TERRABKK เปิดผลวิจัย “The Most Powerful Brand 2020” เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคยุคโควิด-19 พบ ลูกค้ายอมจ่ายเพิ่ม 20-30% เพื่อซื้ออสังหาฯ มีแบรนด์ ขณะ “แสนสิริ” รักษาแชมป์อันดับ 1 "แบรนด์ทรงพลัง 2020" 3 ปีซ้อน

ข้อมูล ผลวิจัย “The Most Powerful Brand 2020” จากการเก็บข้อมูลแบบสอบถามออนไลน์ และภาคสนาม จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 1,581 คน พบว่า แบรนด์แสนสิริ ยังคงรักษาแชมป์ Real Estate: The Most powerful brand 2020 ได้เป็นปีที่ 3 โดยแสนสิริ ได้ Brand Powerful Score อันดับที่ 1   คิดเป็น 66% จากผู้ตอบแบบสอบถามที่รู้จักแบรนด์แสนสิริ เป็นอย่างดี  (คำนวนจาก Performance 7 ด้าน คือ Brand love, Brand Famous, Unique, Dynamic, Trusted, Familiarity, Meet Needs) 

โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 90% รู้จักแบรนด์แสนสิริเป็นอย่างดี และมองว่าแบรนด์แสนสิริ เป็นผู้นำในหลายด้าน อาทิ มาตรฐานงานก่อสร้าง, บริการหลังการขายที่ดี, มีคุณภาพ, การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์, ออกแบบเพื่อผู้สูงวัย และนวัตกรรมสำหรับการอยู่อาศัย และยังเห็นว่าแสนสิริ เป็นแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัย-นักลงทุน, สะท้อนตัวตนเจ้าของ และภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ 

ซึ่งปีนี้ยังมี 2 แบรนด์ ที่มีความโดดเด่น น่าเชื่อถือ ขึ้นแท่นรางวัลแบรนด์ผู้ท้าชิงแห่งปี 2563 คือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จากผลวิจัยที่แสดงถึงความโดดเด่นในด้าน Brand Trusted หรือ แบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นด้านคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค คุ้มค่าคุ้มราคา เข้าถึงง่าย และมีการออกแบบรองรับผู้สูงอายุ  และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC asset) จากผลวิจัยที่แสดงถึงความโดดเด่นในด้าน Brand Differentiate หรือแบรนด์ที่โดดเด่นในโลกออนไลน์ มีความแตกต่างไม่หยุดนิ่ง, หรูหรามีระดับ, ดูอินเตอร์ และภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ

ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เมื่อถามถึงภาพรวมเศรษฐกิจ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม กว่า 81% บอกว่า โควิด 19 มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาฯในช่วงนี้ โดย 3 อันดับแรก บอกว่า ไม่มั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจ 69%, ความมั่นคงทางรายได้และการงาน 67% และมีความกังวลกับโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 40%   

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแยกตามอาชีพ พบว่า กลุ่มเจ้าของกิจการ (พนง.น้อยกว่า 10 คน),     ฟรีแลนซ์, ค้าขายขนาดเล็ก, พนักงานเอกชน, แม่บ้าน-พ่อบ้าน, เจ้าของกิจการ (ไม่มีพนง.) มีความไม่เชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ขณะที่ในอีก 1-5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคทุกกลุ่มตอบว่าเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้น อย่างไรก็ดีสำหรับกลุ่มเจ้าของกิจการ(ไม่มีพนักงาน) เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เห็นว่าช่วงนี้ไม่เหมาะสำหรับการซื้อสินค้ามูลค่าสูง เช่น อสังหาฯ, รถยนต์ 

สำหรับผู้บริโภคที่มีแผนซื้อบ้านใหม่หลังเกิดวิกฤตโควิด19 ส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง, ระบบรักษาความปลอดภัย, บริการหลังการขาย, พื้นที่ใช้สอยภายในที่อยู่อาศัย กันมากขึ้น 

ด้านเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต 5 อันดับแรก ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 72%  เห็นว่าควรมีความคุ้มค่า คุ้มราคา, มาตรการรักษาความปลอดภัย 69%, การประหยัดพลังงาน 56%, การออกแบบพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์  Work From Home 51% และออกแบบที่เน้นความสะอาด ถูกหลักอนามัย 50%  

นางสาว สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด   ผู้ให้บริการเว็บไซต์ TerraBKK.com  สำหรับค้นหาบ้าน-คอนโดฯ พร้อมให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาอสังหาฯทุกประเภทอย่างเจาะลึก กล่าวว่า แม้วิกฤติโควิด 19 ในไทยจะมีทิศทางดีขึ้น แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้คนส่วนใหญ่มีความกังวลต่อรายได้ที่ไม่มั่นคง และเชื่อมั่นว่าในช่วง 1 ปีข้างหน้า ภาพรวมเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น  ซึ่งจากผลงานวิจัย “The Most Powerful Brand 2020” ทำให้เราพบ ว่า คุณค่าของแบรนด์ คือ สินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต  ช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมุมมองด้านการอยู่อาศัยในอนาคต ที่ “บ้าน” จะไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องมีพื้นที่รองรับทั้งการอยู่อาศัย การทำงานในบ้าน และรองรับไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ด้วย  โดยผลวิจัย พบว่า หากมีการซื้ออสังหาฯในช่วงนี้ ผู้บริโภคยินดีจ่ายเงินมากขึ้น 20-30% เพื่อซื้อบ้าน-คอนโดฯ จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เมื่อเทียบกับโครงการอื่นในทำเลเดียวกัน เพราะมองว่าสินทรัพย์ที่มีแบรนด์  จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ขายต่อได้อย่างรวดเร็วในราคาที่พึงพอใจได้ในอนาคต