ขสมก.คลายกฎ เว้นระยะห่างทางสังคม รับเปิดเทอม

28 มิ.ย. 2563 | 08:01 น.

ขสมก.ผ่อนคลาย มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หวังรับผู้โดยสารได้ 70% รับเปิดเทอม เริ่ม 1 ก.ค.นี้

หลังจากที่รัฐบาลเตรียมผ่อนคลาย มาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ระยะที่ 5 โดยอนุญาตให้กิจการผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานบันเทิงต่าง ๆ สามารถเปิดให้บริการได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563  ซึ่งตรงกับวัน เปิดภาคเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยจะมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น

ประกอบกับกระทรวงคมนาคม มีนโยบาย ให้หน่วยงาน ในสังกัด เตรียมผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้สามารถ รองรับผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 70 % โดยอนุญาตให้ผู้ใช้บริการที่เดินทางมาด้วยกัน หรือ เดินทางมาเป็นครอบครัวสามารถนั่งติดกันได้ บนเบาะที่นั่งที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งคาดว่า จะมีผู้ใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก.เพิ่มขึ้นเป็น วันละ ประมาณ 900,000 คน

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.จึงจัด แผนการเดินรถโดยสาร ในช่วงมาตรการผ่อนคลายระยะที่5 และช่วงเปิดภาคเรียน ดังนี้

ขสมก.คลายกฎ เว้นระยะห่างทางสังคม รับเปิดเทอม

1.ด้านรถโดยสาร จะจัดรถออกวิ่ง 100% (3,000 คัน/วัน) หรือรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา โดยมีเที่ยววิ่งเฉลี่ย วันละ 25,000 เที่ยว ซึ่งก่อนนำรถออกวิ่ง จะใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นและเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้ง ขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือ บริเวณประตูทางขึ้น

นอกจากนั้นยังมีการกำหนดจุดนั่ง (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และจุดยืนให้มีระยะห่างกัน 1 เมตร ซึ่งรถโดยสาร 1 คัน อนุญาตให้ ผู้ใช้บริการ ยืนได้ไม่เกิน 10 คน กรณีผู้ใช้บริการเต็ม พนักงานเก็บค่าโดยสารจะติดป้ายข้อความ " ผู้ใช้บริการเต็ม โปรดใช้บริการ รถคันถัดไป" บริเวณกระจกหน้ารถโดยสาร พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการรับทราบ เพื่อรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป สำหรับให้ผู้ใช้บริการที่เดินทางมาด้วยกัน หรือ ผู้ใช้บริการที่เป็นครอบครัวเดียวกัน สามารถนั่งติดกันได้ โดยจะกำหนดจุดนั่งเบาะคู่ (เบาะคู่ที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาททั้ง 2 เบาะ)

ตรวจเช็คสภาพ และตรวจสอบการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆของรถโดยสาร ให้มีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งตรวจเช็คประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน มีการติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อ ใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์

2.ด้านบุคลากร   กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร คอยดูแลการขึ้น-ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติ หน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือทุกครั้ง ขณะปฏิบัติ หน้าที่บนรถโดยสาร และจัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ บริเวณหน้าโรงเรียน และป้ายหยุด รถโดยสาร ที่มีผู้ใช้บริการ หนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ

3.ด้านผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะใช้บริการรถโดยสาร จะต้องนั่ง และยืนตามจุดที่กำหนด กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป  กรณีผู้ใช้บริการที่เดินทางมาด้วยกัน หรือ เดินทางมาเป็นครอบครัว สามารถนั่งบนเบาะที่นั่งคู่ที่กำหนดไว้ (เบาะคู่ ที่ไม่มี เครื่องหมายกากบาททั้ง 2 เบาะ) ส่วนผู้ใช้บริการที่เดินทางมาคนเดียว ขอความกรุณานั่งบนเบาะที่นั่งอื่น ๆที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท และเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บนรถโดยสาร เพื่อเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ ก่อนลงจากรถ นอกจากนั้น ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด