พลัสฯยกระดับขั้นสูงป้องลูกค้า-ลูกบ้านปลอดโควิด-19

09 เม.ย. 2563 | 12:34 น.

พลัสฯยกระดับบริหารจัดการขั้นสูงสุด สร้างความมั่นใจให้ลูกบ้านและผู้มาติดต่อ นำเทคโนโลยีแก้ปัญหา  ใช้แอพพลิเคชั่นสื่อสารตามนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม

นางสาวนฤมล   อาภรณ์ธนกุล   ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย  บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เผยว่าปัจจุบัน พลัสฯ มีธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัย (ดูแลงานนิติบุคคล)   และบริหารทรัพยากรอาคารเพื่อการพาณิชย์กว่า 200 โครงการ ซึ่งสถานการณ์ระบาดของโควิด–19  ในปัจจุบันนั้น การดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาติดต่อในแต่ละโครงการ  ดังนั้นพลัสฯ จึงให้ความสำคัญและตื่นตัวในการรับมือเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยทุกโครงการ ใน 3 มิติหลัก คือ  สถานที่สะอาด มีการเพิ่มความเข้มงวดและความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางอย่างสม่ำเสมอ 

จัดจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย รวมถึงทำป้ายตารางทำความสะอาดในจุดสำคัญๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจเช็ค และสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ  ถัดมาคืออากาศสะอาด ซึ่งจะดูแลและตรวจเช็คระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ช่วยลดปัญหาด้านมลพิษในอาคาร รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ และที่สำคัญคือการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติในการใช้ลิฟต์และพื้นที่สาธารณะให้มีระยะห่างที่เหมาะสม   

พลัสฯยกระดับขั้นสูงป้องลูกค้า-ลูกบ้านปลอดโควิด-19

ยกตัวอย่างเช่น โครงการที่พักอาศัย ที่ทีมพลัสฯ ลิฟวิ่งแมเนจเมนต์ ได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยมาตรการพิเศษ 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย  1. การเตรียมความพร้อมด้านพนักงาน  โดยการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เพื่อให้ทีมบริหารโครงการมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมจะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สู่เจ้าหน้าที่ทุกระดับของโครงการทั้ง แม่บ้าน รปภ. รวมถึงออกมาตรการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงขอความร่วมมือพนักงานไม่ให้เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง 

ถัดมาคือ 2. ทำความสะอาดทุกชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ 99.9% ในจุดที่เป็นผิวสัมผัสต่างๆ ในอาคาร เช่น ปุ่มลิฟต์ ราวจับบันได ลูกบิดประตู และเพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้นเป็น 3 ครั้งต่อวัน (เช้า บ่าย เย็น) รวมถึงอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ส่วนกลาง (เช่น ล็อบบี้ ห้องออกกำลังกาย Co-working Space  คลับเฮาส์, Educational Playground ห้องเอนกประสงค์) 3. เตรียมเจลฆ่าเชื้อชนิดเข้มข้น แอลกอฮอล์ 70% และหน้ากากอนามัย ให้บริการลูกบ้านไว้ตามจุดต่างๆ ของอาคาร รวมถึงมีคำแนะนำการล้างมือให้ถูกวิธีและวิธีสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องถึง 3 ภาษา (ไทย, อังกฤษ ,จีน) ติดประกาศในทุกโครงการ และประชาสัมพันธ์ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการสื่อสารกับลูกบ้าน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องการเชื้อไวรัส

พลัสฯยกระดับขั้นสูงป้องลูกค้า-ลูกบ้านปลอดโควิด-19

 4. แจ้งข่าวสารให้ลูกบ้านได้รับทราบความเคลื่อนไหวของมาตรการต่างๆ ตลอดเวลา ทั้งมาตรการการดูแลที่อยู่อาศัย รวมถึงมาตรการการดูแลจากทางภาครัฐ  เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกบ้านผ่าน Home Service Application และ Living Plus Application ตลอดจนช่องทางที่เหมาะสมกับแต่ละโครงการ และ 5. เตรียมพร้อมหมายเลขติดต่อประสานงานกับสถานพยาบาลที่ใกล้โครงการ กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือลูกบ้านต้องการความช่วยเหลือ เพื่อให้เกิดการส่งต่ออย่างรวดเร็ว รวมถึงเจรจาเพื่อเป็นพันธมิตรในการดูแลรักษาสุขภาพกับโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โครงการ เช่น ทำบัตรส่วนลดการเข้าใช้บริการโรงพยาบาลพันธมิตรให้ลูกบ้าน

“นอกจากนี้พลัสฯ ยังได้จัดกิจกรรม  Food Truck Delivery  เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านถึงในโครงการ และช่วยส่งเสริมการสร้างกระจายรายได้แม้ในช่วงสถานการณ์วิกฤติแก่กลุ่มผู้ประกอบการ โดยร้านค้าต่างๆ ที่คัดเลือกมา ต้องปฏิบัติตามมาตรการดูแลรักษาความสะอาด  รวมถึงยังได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาร่วมแก้ปัญหานี้  ด้วยการให้ผู้อยู่อาศัยในแต่ละโครงการติดต่อสื่อสารผ่าน Home Service Application และ Living Plus Application  ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันที่พลัสฯ จะมีบริการให้กับโครงการที่บริหารสำหรับสื่อสารระหว่างนิติฯ และลูกบ้าน โดยมีฟีเจอร์ที่สามารถแชทพูดคุยกับทีมฝ่ายจัดการนิติบุคคล ตอบโจทย์ การเว้นระยะห่าง โดยที่ลูกบ้านยังสามารถใกล้ชิดกับฝ่ายจัดการฯ ได้ผ่านช่องทางการแชทและ การแจ้งข่าวสาร การแจ้งกฎระเบียบ แจ้งพัสดุ และแจ้งค่าใช้จ่ายต่างๆ 

พลัสฯยกระดับขั้นสูงป้องลูกค้า-ลูกบ้านปลอดโควิด-19

ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในยุคการระบาดของโควิด-19  เพราะมีบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันค่อนข้างครบ นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยี  QR Code มาใช้สำหรับการประเมินความเสี่ยงบุคคลภายนอก ผู้ที่จะมาติดต่อเพื่อความสะดวก  ลดการสัมผัสด้วย จะเห็นได้ว่าแม้จะเป็นช่วงเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ทีมพลัสฯ ยังคงดูแลลูกค้าใกล้ชิดเหมือนเดิม ยังรักษาบรรยากาศของคอมมูนิตี้ที่มีความรักสามัคคีกันในโครงการ ช่วยเหลือมีน้ำใจกันเหมือนเคย”นางสาวนฤมล กล่าวทิ้งท้าย