."กัปตัน-แอร์-สจวร์ต" กลุ่มเสี่ยง ทิ้งโอนบ้านระนาว

10 เม.ย. 2563 | 03:55 น.

ดีเวลอปเปอร์-แบงก์ สกรีนเข้ม ซื้อบ้าน-คอนโดฯ หลังพบกลุ่มเสาหลักกลายเป็นลูกค้ากลุ่มเสี่ยง แอร์โฮสเตส-สจวร์ต-กัปตัน-ไกด์-พนักงานโรงแรม เพอร์เฟคเผย โครงการรอบสนามบินสุวรรณภูมิ เจอทิ้งดาวน์-ไม่โอน 30% ด้านหมอ-พยาบาล วุ่นโควิด ขอเลื่อนยาว

สถานการณ์การระบาดไวรัสโคโรนา หรือโควิด -19 ทวีความรุนแรง ทุบเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหนัก ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม ด่านแรกที่ได้รับผลกระทบ คือธุรกิจสายการบิน โรงแรม ร้านอาหารร้านรวงต่างต้องปิดกิจการ ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ถึงการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะเริ่มพบว่าผู้บริโภคผิดนัดชำระค่างวดเงินดาวน์ การทิ้งเงินดาวน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้สถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อแล้วก็ตาม

ขณะที่ลูกค้าชั้นดี อย่าง ธุรกิจสายการบิน พนักงานสนามบิน พนักงานต้อนรับ ภาคการบริการบนเครื่องบิน ที่เรียกติดปากว่า เหล่านางฟ้า แอร์โฮสเตส สจวร์ต นักบิน จากกลุ่มมั่งคั่ง อู้ฟู่ เลิศหรูและดูดี แต่คราวนี้ต้องพ่ายให้กับเชื้อโรคร้าย กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสถาบันการเงิน ต้องจัดอันดับความน่าเชื่อถือใหม่ในการพิจารณาสินเชื่อ

 เช่นเดียวกับกลุ่ม มัคคุเทศก์หรือไกด์ พนักงานโรงแรม ที่เคยเป็นธุรกิจดาวรุ่ง มาวันนี้ กลับกลายเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ต้องว่างงาน

ขณะการทบทวนแผนการลงทุนทำเล อนาคตไกล อย่างรอบสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งสนามบินหัวเมืองใหญ่ ทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว เมืองชายทะเล กลายเป็นทำเลที่ดีเวลอปเปอร์ต้องนำกลับมาทบทวน เมื่อสถานการณ์พลิกผันจากความรุนแรง วายร้ายไวรัส ที่ไม่มีใครยืดอกยืนยันได้เต็มปากว่าจะจบลงเมื่อใด

ผลกระทบที่เกิดขึ้น นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ว่า ไม่ทราบแน่ชัดว่าจะลดความรุนแรงลงเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างปรับตัวต่อเนื่อง จากการขายและระบายสต๊อกเก่า การจัดมหกรรมโปรโมชัน เพื่อให้เกิดยอดขาย ชะลอการลงทุนโครงการใหม่ อย่าง คอนโดมิเนียม และเน้นการพัฒนาบ้านแนวราบ ในจำนวนพอเหมาะ เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์เป็นสำคัญ

อีกทั้งหากการระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มสงบ จึงค่อยหาวิธีเจาะกลุ่มลูกค้า ตลอดจนแนวทางการขายใหม่ เพราะเชื่อว่าไวรัสดังกล่าวเป็นตัวแปรสำคัญต่อการพัฒนาระบบ วิธีคิดในการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิมนับจากนี้

 

."กัปตัน-แอร์-สจวร์ต" กลุ่มเสี่ยง ทิ้งโอนบ้านระนาว

 

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากลูกค้าทิ้งดาวน์ไม่มาโอนกรรมสิทธิ์ มากถึง 30% ต่อโครงการ เฉลี่ยโครงการละกว่า 100-200 หน่วย ส่วนใหญ่อยู่บริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียม ระดับราคาตั้งแต่กว่า 2 ล้านบาทไปจนถึงกลุ่ม 10 ล้านอัพ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพนักงานต้อนรับสายการบิน แอร์โฮสเตส สจวร์ต กัปตัน พนักงานทำงานสนามบิน ใกล้ที่ทำงาน ซึ่งหลายคนซื้อไว้สำหรับเป็นบ้านหลังแรกและหลังที่ 2 อีกทั้งมัคคุเทศก์ หรือไกด์ พนักงานโรงแรม กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกๆ ที่สถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ 
 

“แอร์โฮสเตส สจวร์ต บางรายได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารแล้ว เลือกไม่เดินทางมาโอนกรรมสิทธิ์ตามนัด โดยให้เหตุผลว่า ว่างงาน อาชีพไม่มั่นคง ไม่มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ และไม่แน่ใจว่า สายการบินจะเรียกตัวกลับไปทำงานอีกหรือไม่  วันนี้ต้องยอมรับว่า กลุ่มลูกค้าที่เคยมองว่ามั่นคง มีรายได้สูง กลับกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่น่าตกใจยิ่ง”

ขณะ กลุ่มแพทย์และพยาบาล นายวงศกรณ์ ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อยู่ในช่วงระบาดรุนแรง ลูกค้ากลุ่มนี้ขอเลื่อนโอนกรรมสิทธิ์ออกไปไม่มีกำหนด ประมาณ 5% ซึ่งบริษัทเห็นว่า การเลื่อนโอนยาวๆ ส่งผลดีกว่า การนำโครงการกลับมาขายใหม่ นอกจากไม่คุ้มแล้วยังต้องแบกภาระที่ไม่จำเป็น จากผลกระทบเหล่านี้จึง ทำให้การปิดผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ อาจลดลงไปบ้าง

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN) ระบุ บริษัทไม่มีโครงการในทำเลสนามบินสุวรรณภูมิ จึงไม่มีผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตามนับจากนี้การพัฒนาโครงการต้อง เจาะกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุด เลือกทำเลที่มีศักยภาพสูงจริงๆ

เช่นเดียวกับ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บมจ.พฤกษา ระบุว่า จากสถานการณ์ไวรัสที่เกิดขึ้น บริษัทมีการคัดกรองลูกค้ากลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะพนักงานทำงานสายการบิน และโรงแรม เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อการโอนกรรมสิทธิ์

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,564 วันที่ 9-11 เมษายน 2563