ล้ม‘ท.พาณิชย์’ ทัพบก ตัด70%เข้ารัฐ

17 ก.พ. 2563 | 03:30 น.

ปฐมบทการปฏิรูปกองทัพเริ่มแล้ว 17 กุมภาพันธ์นี้ กองทัพบกนัดลงนามเอ็มโอยูธนารักษ์เข้ามาบริหารจัดระบบรายได้ที่ราชพัสดุในเขตทหารให้เกิดประสิทธิภาพ สำรวจเบื้องต้นพบที่มีศักยภาพ 1 ล้านไร่ “โสภณ” หนุนพัฒนาที่ทหารกลางเมือง ชี้ “สนามเป้า” ค่า 3 แสนล้าน

สแกนล้านไร่

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ กรมธนารักษ์มีนัดหมายลงนามความร่วมมือกับกองทัพบก (ทบ.) ในการนำพื้นที่ราชพัสดุในการดูแลของกองทัพบกปัจจุบัน มาบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการสำรวจเบื้องต้นพบมีพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 1 ล้านไร่ ซึ่งปกติในการดำเนินการเชิงพาณิชย์ในที่ราชพัสดุ หากเกิดรายได้จากที่ดังกล่าวจะต้องนำส่งรายได้เข้ารัฐ 70% ของรายได้ที่เกิดขึ้น อีก 30% ให้หน่วยงานราชการนำไปบริหารจัดการเองได้

ทั้งนี้ หลังจากลงนามแล้วกรมธนารักษ์จะลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทบ.ในการพิจารณาว่าพื้นที่ใดจะนำมาจัดสรรเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์บ้าง เพื่อกรมจะได้นำมาเปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่เพื่อนำรายได้เข้ารัฐตามระเบียบต่อไป

ผลประโยชน์เข้าระบบ

“หลังลงนามก็จะกางแผนที่ดูได้เลยว่าที่ไหนเข้าข่ายเชิงพาณิชย์บ้าง ที่เห็นชัดๆ คือที่ที่มีเอกชนเช่าต่อเพื่อทำการค้าแล้ว เราจะโยกตรงนั้นให้เขามาทำสัญญาเช่ากับกรมโดยตรง โดยคิดค่าเช่าจากราคาประเมินของกรมและคำนวณรายได้ต่างๆ เพื่อให้เงินเข้ารัฐเพิ่มขึ้น แต่พื้นที่ไหนยังไม่มั่นใจว่าเข้าข่ายที่เชิงพาณิชย์ก็ต้องพิจารณาร่วมกัน” นายยุทธนากล่าว

ส่วนกรณีพื้นที่ที่ถูกบุกรุกนั้น กรมธนารักษ์จะเข้าสำรวจสิทธิประชาชนที่เข้าอาศัยทำกินในที่ราชพัสดุ โดยผู้ที่อยู่ก่อนปี 2546 หากผลตรวจสอบพิสูจน์ชัด จะให้มาทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์โดยตรง เพื่อความเป็นธรรมกับประชาชนที่อาศัยพื้นที่ดังกล่าวตั้งรกรากกันมานานแล้ว ทั้งนี้กรมไม่มีแนวคิดในการขับไล่ใดๆ แต่ต้องจัดระเบียบให้อยู่ในระบบอย่างถูกต้องเท่านั้น

แก้สิ่งผิดให้โปร่งใส

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.กล่าวเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ขณะแถลงกรณีเหตุกราดยิงที่ห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ที่มีกระแสวิจารณ์กว้างขวางว่า สาเหตุมาจากผู้บังคับบัญชาแสวงหาประโยชน์มิชอบจากโครงการสวัสดิการที่จัดให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ยอมรับว่า ที่่ผ่านมามีหลายโครงการ เช่น บ้านสวัสดิการ การกู้เงิน มีบางหน่วยไปร่วมมือกับพ่อค้า มีพ่อค้ามาวิ่งเต้น ซึ่งหลายอย่างไม่ถูกต้อง จึงจะลงนามร่วมกับกระทรวงการคลัง ในการใช้ที่ราชพัสดุเป็นโครงการสวัสดิการเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ เฟส 1 จะเริ่มต้นที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ และสนามมวย “ต่อไปการบริหารจัดการทั้งหมดจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการมากกว่าจะใช้ทหาร เพราะมีความเป็นมืออาชีพ” จะทำทุกอย่างให้สะอาดและโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายมากที่สุด

ล้ม‘ท.พาณิชย์’ ทัพบก  ตัด70%เข้ารัฐ

 

รายได้สวนสนปี70ล.

ด้านเจ้ากรมสวัสดิการ ทหารบก ได้รายงานเกี่ยวกับธุรกิจในค่ายทหารให้กับผู้บัญชาการทหารบกแล้ว โดยธุรกิจในค่ายทหารที่จะต้องบูรณาการเป็นเชิงพาณิชย์ รวมประมาณกว่า 40 แห่ง

แหล่งข่าวระดับสูงจากผู้ประกอบการโรงแรมไทย เผยว่า การประเมินรายได้ของโรงแรมสวนสนประดิพันธ์ หัวหิน ห้องพัก 160 ห้อง คาดรายได้เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นรายได้จากค่าห้องพักราว 43.8 ล้านบาทต่อปี (คำนวณจากจำนวนห้องพัก 160 ห้อง รายได้เฉลี่ยต่อห้อง 1,500 บาทต่อคืน อัตราเข้าพักเฉลี่ย 50%) รายได้จากการจัดสัมมนาอยู่ที่ราว 8.6 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ห้องพัก) รายได้จากสนามกอล์ฟราว 18 ล้านบาทต่อปี (เฉลี่ยค่ากรีนฟีคนละ 2,000 บาท ตีกอล์ฟ 2 รอบต่อวัน เช้า-บ่าย 1 ก๊วนมี 5 คน 10 ก๊วนต่อวัน อัตราการใช้งาน 50%)

การจัดรายได้ทหารใหม่นี้ทางผู้ประกอบการโรงแรมไทยเห็นด้วย การให้บริการโรงแรมที่พัก สนามกอล์ฟ ห้องประชุมสัมมนา ถ้าบอกว่าเป็นสวัสดิ การทหารก็ไม่ควรขายคนนอก เพราะเท่ากับใช้งบประมาณมาลงทุน เพื่อมาทำธุรกิจแข่งกับผู้ประกอบการภาคเอกชน

ที่ทหาร 3 แสนล้าน

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ดินในครอบครองของกองทัพในเขตทำเลทองกลางเมือง อาทิ ที่ตั้งสถานีโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5) สนามเป้า เนื้อที่ 900 ไร่ ถ้าเป็นราคาตลาดอยู่ที่ตารางวาละ 1,000,000 บาท ตีตามราคาประเมินจะเหลือครึ่งหนึ่ง หรือ 1 ใน 3 ปัจจุบันติดถนนสายหลักและเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเชิงพาณิชย์สูง หากกรมธนารักษ์นำมาเปิดให้เอกชนเข้าพัฒนาพื้นที่ จะเกิดการลงทุนในที่ดินแปลงนี้กว่า 300,000 ล้านบาท โดยสามารถขึ้นอาคารใหญ่ขนาดเทียบเคียงตึกสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพที่ถนนสีลมได้ 80 ตึก พร้อมทั้งอาจกันที่ 300 ไร่แบ่งเป็นพื้นที่สีเขียวสร้างปอดของเมืองได้เป็นที่ดินทหารกลางเมืองที่ควรนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ 2563