ลดหนี้...งดคอนโดฯ ตั้งรับปีเสี่ยง

19 ก.พ. 2563 | 04:45 น.

 

ผ่ามุมคิด

อสังหาฯ รายใหญ่ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) โดยนายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ สัญญาณขาหลักเศรษฐกิจไทย ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา เหตุงบประมาณปี 2563 ยืดเยื้อ และมีปัจจัยนอกยากควบคุม ประกาศเดินหน้าแผนของกลุ่มธุรกิจลดเสี่ยง ผ่านการจับมือพันธมิตรเหนียวแน่น เลือก 12 โครงการบ้านใหม่ ไร้สร้างสต๊อกคอนโดฯเพิ่มเป็นภาระ พร้อมมุ่งสร้างสภาพคล่องทางการเงิน ลดหนี้ทุกส่วนและตุนที่ดินใหม่ ขณะเดียวกันส่งบริษัทลูกเกาะกระแส เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ผุดมิกซ์ยูสระยอง รอโอกาสทัวร์จีนฟื้น

 

มรสุมรุมเร้า

ภาพรวมตลาดอสังหาฯปีที่แล้วกระทบหนักจากมาตรการควบคุมสินเชื่อแอลทีวีของธปท.​ ขณะที่สถานการณ์ปีนี้ มีผลพวงต่อเนื่องมาหลายด้าน โดยเฉพาะภาวะทางเศรษฐกิจที่น่ากังวลหลังจาก...งบประมาณประจำปียืดเยื้อยังไม่ผ่านความเห็นชอบเป็นปัจจัยกดดันการขับเคลื่อนของธุรกิจด้านภาคการส่งออกยังกระทบจากค่าเงินบาทแข็งการท่องเที่ยวก็เจอปัจจัยลบใหม่จากไวรัสโคโรนาส่งผลให้รายได้อีกขาหลักลดลงซึ่งภาคดังกล่าวเปรียบเป็นต้นน้ำของทุกกำลังซื้อตั้งแต่รากหญ้าโดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปจะกระทบรากยาวถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี

ปีนี้ปีหน้าตลาดคงไม่สดใสเรารองบประมาณมาแล้ว5​ เดือนท่ามกลางปัญหาอื่นๆเช่นไวรัสโคโรนากลับมาฉุดการท่องเที่ยวถ้าขาหลักเศรษฐกิจกระทบแล้วเราก็คงกระทบด้วย

 

 

งานใหญ่ลดภาระหนี้

นายชายนิดกล่าวต่อว่าท่ามกลางการทำธุรกิจปีนี้อาจไม่ง่ายมากนักจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีนอกจากจะซื้อที่ดินใหม่ไว้ก่อนบริษัทยังมีภารกิจสำคัญ ที่ต้องการเพิ่มกำไรลดภาระหนี้เสริมสภาพคล่องทางการเงินและสร้างงบดุลที่เหมาะสมเป้านำร่องในช่วงปีนี้ประมาณ1​ หมื่นล้านบาทจากหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยทั้งหมดประมาณ3​ หมื่นล้านบาทตั้งแต่การเดินหน้าขายหุ้นในโรงแรมรอยัลออคิด, การเร่งทยอยนำที่ดินกว่า60​ ไร่​ (รัชดา, รามอินทรา, แจ้งวัฒนะ)​ มูลค่ามากกว่า5.5 พันล้านบาทออกขายรวมถึงการขายที่โครงการในจังหวัดเชียงใหม่และเร่งปิดการโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการลงทุนต่างประเทศคิโรโระประเทศญี่ปุ่น อีกด้วย

 

ชายนิด อรรถญาณสกุล

 

ปีนี้เรามีแผนมากกว่าทุกปีในเรื่องการลดภาระหนี้ให้เร็วที่สุดท่ามกลางภาวะที่ไม่ได้เอื้อต่อการเติบโต ยอดขายบ้าน-คอนโดฯคงไม่ดีโรงแรมก็กระทบ​”

 

12 โครงการใหม่ไร้คอนโดฯ

สำหรับแผนเปิดโครงการใหม่ในช่วงปีนี้นั้นยังเดินหน้ารวมทั้งสิ้น12​ โครงการมูลค่า1.85 หมื่นล้านบาทในกลุ่มแนวราบทั้งหมดเนื่องจากต้องการเลี่ยงภาวะเสี่ยงซัพพลายที่ล้นในตลาดคอนโดฯเป็นการชั่วคราวและเพื่อต้องการทำให้การระบายสต๊อกคอนโดฯเก่ามูลค่ารวม6.8 พันล้านบาทเป็นไปอย่างรวดเร็วโดยตั้งเป้าให้เหลือสต๊อก สิ้นปีที่3.5 พันล้านบาทเท่านั้นขณะเดียวกันการหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดฯในระดับราคาที่เหมาะสมมีความยากเพราะราคาสูงต่างจากกลยุทธ์เราที่คำนึงในเรื่องต้นทุนที่ตํ่าเพื่อไม่ให้เป็นภาระของผู้ซื้อฉะนั้นปีนี้จะชะลอคอนโดฯไว้ก่อน

 

ปีนี้เราเน้นเพียงแนวราบหลังสถานการณ์ตลาดคอนโดฯขายช้าลงรีเจ็กต์สูงจากปัญหาต่างๆเปรียบเป็นระเบิดเวลาแต่บ้านเดี่ยวยังเป็นตลาดที่สดใสผ่านโลเกชันที่ดีแบบบ้านใหม่จะทำให้เราได้รับการตอบรับ​”

ทั้งนี้โครงการใหม่แนวราบนั้นอาศัยกลยุทธ์การร่วมทุนกับ3​ พันธมิตรเหนียวแน่น​ (ฮ่องกงแลนด์, ซูมิโตโม ฟอเรสทรี, เซกิซุยเคมิคอล)​ ในการเจาะทำเลศักยภาพเดิมและใหม่ผ่านแบบบ้านใหม่ลดฝุ่นทุกแบรนด์ทุกระดับราคาตั้งเป้ายอดขายทั้งปี1.8 หมื่นล้านบาท

 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2563