‘ชาญอิสสระ’ลุุ้นอสังหาฯฟื้น
ผ่ามุมคิด
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กางแผนปี 2563 ยอมรับธุรกิจปีนี้ไม่ง่าย เศรษฐกิจโลกยังท้าทายผู้ประกอบการอสังหาฯไทย ลุ้น ธปท.คลายปมแอลทีวี เปิดช่องสร้างยอดขาย อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นตลาดบนเดินหน้าเปิดขายโครงการลักชัวรี เจาะตลาดท่องเที่ยวหัวหิน พร้อมขยายกลุ่มโรงแรม สร้างแกร่งกองทรัสต์และพอร์ตรายได้
อุตสาหกรรมโลกท้าทาย
ปี 2563 คาดยังเป็นปีที่ท้าทายของหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก เพราะต่างยังต้องเผชิญกับปัจจัยกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เช่นเดียวกับธุรกิจไทย แต่อย่างไรก็ตาม มองภาพรวมอาจมีทิศทางที่ดีกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เพราะหลายข้อจำกัดน่าจะได้รับการแก้ไข เช่น ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง เนื่องจากที่ผ่านมาทำให้สินค้าไทยมีราคาแพง ภาคการส่งออกกระทบอย่างหนัก ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว กลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรมก็ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะมีมาตรการแก้ไข ในการบริหารจัดการค่าเงินให้อยู่ในภาวะสมเหตุสมผลมากขึ้น
ลุ้นอสังหาฯฟื้น
ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย หลังจากช่วงปีที่ผ่านมามีปัจจัยลบจำนวนมาก โดยเฉพาะจากมาตรการภาครัฐ เช่น มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี), แนวโน้มการประกาศใช้ กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ ต่างทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจ สับสนในแง่ระยะเวลา เงื่อนไข และการปฏิบัติตัว กระทบหนักในตลาดคอนโดฯ ส่งผลทั้งอุตสาหกรรมปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งเรื่องสินค้า การขาย และการตลาด เพื่อรักษาผลประกอบการคงไว้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าทิศทางตลาดปีนี้ จะยังทรงตัวต่อเนื่อง หากแอลทีวียังไม่ปลดล็อก
“เป็นงานยาก และท้าทายของทุกบริษัทต่อเนื่องอีก 1 ปี แต่หาก ธปท. ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขแอลทีวีลง ก็อาจทำให้บรรยากาศของตลาดดีขึ้น และเป็นโอกาสให้บริษัทอสังหาฯ สร้างยอดขาย ทำกำไรได้บ้าง”
เปิดใหม่ 2 โครงการ
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด เจาะกลุ่มโปรดักต์ระดับลักชัวรี เพราะถือเป็นตลาดที่โดดเด่น และมีดีมานด์ โดยเตรียมเปิดขายคอนโดฯใหม่ “ดิ อิสสระ สาทร” มูลค่า 2.4 พันล้านบาท บนที่ดินถนนจันทน์ ขณะเดียวกันหลังจากช่วงปีที่ผ่านมา ได้มีการซื้อที่ดินติดชายหาดบริเวณเขาตะเกียบ หัวหิน ไว้อีก 1 แปลง จึงเตรียมนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดฯ รูปแบบตากอากาศ อีก 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท จำนวน 150 หน่วย ในราคาขาย 1.7 -2.5 แสนบาท/ตร.ม. เตรียมเปิดขายในช่วงกลางปีนี้
“เชื่อมั่นในดีมานด์ทำเลหัวหิน โดยเฉพาะกลุ่มโครงการติดชายหาด ที่พบยังมีความต้องการต่อเนื่อง สวนทางกับซัพพลายจำนวนน้อย ส่วนราคาที่ดินติดชายหาด ราคาพุ่งแรง พบตัวเลขซื้อ-ขาย อยู่ที่ 90-150 ล้านบาทต่อไร่”
กลยุทธ์พาร์ตเนอร์
ทั้งนี้ ในภาคธุรกิจโรงแรม บริษัทมีแผนขยายโครงการในเครือต่อเนื่อง ทั้งส่วนต่อขยายของโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต, บาบาบีช คลับ ภูเก็ต และบาบาบีช คลับ หิวหิน เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวไทย และเสริมแกร่งการเติบโตของมูลค่ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อ SRIPANWA โดยทั้งภาคอสังหาฯ เพื่อขาย และภาคบริการโรงแรม จะช่วยกระจายความเสี่ยง และสร้างสมดุลเรื่องรายได้ในช่วงที่ตลาดใดตลาดหนึ่งมีปัญหาได้ ขณะเดียวกัน บริษัทใช้กลยุทธ์สำคัญ คือการหาพาร์ตเนอร์รายใหญ่ในการร่วมลงทุนในแง่ต่างๆ เช่น ช่วงที่ผ่านมา มีทั้งกลุ่มสหพัฒน์, บีทีเอส กรุ๊ป และ เชลล์ แห่งประเทศไทย ช่วยให้เอื้อประโยชน์ต่อกันทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ทำให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็ว และพอร์ตรายได้แข็งแรงขึ้น
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,540 วันที่ 16-18 มกราคม 2563