ปั้น”เดอะ ฟอเรสเทียส์” ต้นแบบโครงข่ายอัจฉริยะ รายแรก

01 ธ.ค. 2562 | 05:16 น.

MQDC ยกระดับสาธารณูปโภคของประเทศ ผนึก การไฟฟ้านครหลวง พัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า นำร่องโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ปักหมุดต้นแบบเมืองแห่งความสุขรายแรกในเอเชียแปซิฟิค

ปั้น”เดอะ ฟอเรสเทียส์”  ต้นแบบโครงข่ายอัจฉริยะ รายแรก

นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และบริการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) และ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ จำกัด    เปิดเผยว่า MQDC มีแนวทางอย่างชัดเจนในการพัฒนาธุรกิจกลุ่มที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน ศูนย์การค้า รวมถึงธุรกิจการให้บริการ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลังงาน การสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมและร่วมอนุรักษ์โลก  เพื่อให้สอดคล้องกับหลาย ๆ หน่วยงานจากภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม

 

ความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง บริษัทมีความตั้งใจที่จะทำให้โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการต้นแบบในประเทศไทย และเป็นโครงการแรกในเอเซียแปซิฟิคที่ใช้โครงข่ายอัจฉริยะ เพื่อลดความต้องการการใช้กำลังไฟฟ้า และนำไปสู่การขยายผลในโครงการอื่น ๆ ของ MQDC ต่อไป

 

ทั้งนี้ MQDC ตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียวหรือ Green Economy โดยการร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงในครั้งนี้ เราต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือน โดยนำพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มาต่อยอดการใช้พลังงานไฟฟ้าในโครงการ

 

“แนวทางของ MQDC คือการทำงานภายใต้พันธกิจ “For All Well-Being” ซึ่งเราจะค้นคว้าและทำงานวิจัยเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีไม่ใช่เฉพาะมนุษย์เท่านั้น แต่หมายรวมถึงสรรพสิ่งบนโลกนี้ ในขณะเดียวกันเรามุ่งมั่นที่จะนำงานวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจอีกด้วย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับองค์กรที่มีพันธกิจในการดำเนินงาน และมีความมุ่งมั่นและเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม” 

ปั้น”เดอะ ฟอเรสเทียส์”  ต้นแบบโครงข่ายอัจฉริยะ รายแรก

นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า MEA มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพงานบริการ ขับเคลื่อนโครงข่ายอัจฉริยะ (MEA Smart Grid) เพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ให้มีระบบไฟฟ้าที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ ไปพร้อม ๆ กับการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานทดแทน โดยที่ผ่านมา MEA มีการสร้างความร่วมมือกับหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการพัฒนาการใช้พลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งระบบโซลาร์ รูฟท็อป เพื่อการผลิตไฟฟ้าใช้ภายในองค์กร รวมไปถึงการขยายสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้  MEA ยังมีการพัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ MEA ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับ MQDC เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงข่ายอัจฉริยะ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้มีความทันสมัย มั่นคง มีประสิทธิภาพ และรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

“บทบาทของ MEA ที่มีต่อความร่วมมือในครั้งนี้ คือ การสนับสนุนข้อมูลด้านระบบไฟฟ้า ด้านเทคโนโลยี ด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบโครงข่ายอัจฉริยะ ซึ่งหมายรวมถึงการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้า ระบบผลิตไฟฟ้า    แบบกระจายตัว ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบบริหารจัดการพลังงานและการจัดการปริมาณการใช้ไฟฟ้า”

นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส MQDC กล่าวเสริมว่า  ที่มาของความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของ MQDC ที่จะสร้าง เดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้เป็นเมืองแห่งความสุขที่ยั่งยืน และเป็นโครงการพัฒนาเมืองแห่งแรกของโลกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมทั้งหมดให้เชื่อมกับธรรมชาติ และมาพร้อมกับโครงการที่พักอาศัยมาตรฐานระดับสากลหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของคนทุกเจนเนอร์เรชั่นได้อย่างครอบคลุม

 

นอกจากนี้ทาง MQDC จะสนับสนุนพื้นที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาวิจัย และพัฒนาระบบโครงข่ายอัจฉริยะ พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจด้านพลังงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้เป็นประโยชน์ต่อโครงการในระยะยาวต่อไป โดยการไฟฟ้านครหลวงจะสนับสนุนด้านข้อมูลระบบไฟฟ้า เทคโนโลยี อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบโครงข่ายอัจฉริยะ

 

“เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันปัญหารถติด ฝุ่นพิษ รวมถึงความวุ่นวายจากการอยู่อาศัยร่วมกับคนจำนวนมาก ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงาน ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันในการแก้ไข ดังนั้นการร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงในครั้งนี้เรามีความตั้งใจที่จะทำให้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการต้นแบบในประเทศไทย และเป็นโครงการแรกในเอเซียแปซิฟิคที่ใช้โครงข่ายอัจฉริยะ เพื่อลดความต้องการในการใช้กำลังไฟฟ้า ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางการใช้พลังงานและการใช้กำลังไฟฟ้าของประเทศต่อไป รวมถึงทางเราจะนำความรู้ที่ได้รับจากการไฟฟ้านครหลวงเพื่อนำไปพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของ MQDC ในอนาคต”