“มั่นคง” ปลุกถนนสุรวงศ์ปักหมุดออฟฟิศ

20 พ.ย. 2562 | 10:55 น.

“ มั่นคงเคหะการฯ ” ลุยแนวคิด Wellbeing ผ่านการพลิกโฉมครั้งใหญ่ เปิดตัวสำนักงานใหม่บนถนนสุรวงศ์หวังสร้าง DNA ของพนักงาน ส่งต่อโปรดักส์ดีไปยังผู้บริโภค

 

 

 

 

 

“มั่นคง” ปลุกถนนสุรวงศ์ปักหมุดออฟฟิศ

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่าหลังจากบริษัทปรับโครงสร้างใหม่ และเดินหน้าตามแนวคิดหลัก " Wellbeing หรือ สุขภาวะองค์รวมที่ดี " สำหรับการออกแบบดีไซน์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของคนยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับความสุขผ่านคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จะส่งผลให้ไปยังสุขภาพกายและจิตใจที่ดีนั้น ล่าสุดบริษัทได้นำแนวคิดดังกล่าวมาพลิกโฉมวัฒนธรรมองค์กรใหม่ด้วย ผ่านการเปิดตัวสำนักงานใหม่ รวมพื้นที่ใช้สอย 5,000 ตร.ม เนื้อที่ 2 ไร่ บนถนนสุรวงค์ ภายใต้คอนเซปต์ Workplace Wellbeing

 

“มั่นคง” ปลุกถนนสุรวงศ์ปักหมุดออฟฟิศ

ตัวอาคารออกแบบดีไซน์โดยเน้นโทนสีธรรมชาติ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา โดยภายในเริ่มจาก ชั้น G เป็นพื้นที่ Co-Wellnest ซึ่งพนักงานสามารถใช้พื้นที่ในการ Sharing ความรู้ต่างๆ นอกจากนี้ยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการได้, ชั้น P1 - P2 ชั้นจอดรถ, ชั้น 5 ชั้นฟิตเนสให้พนักงานได้ออกกำลังกาย มีทั้งห้องโยคะและห้องกายภาพ, ชั้น 6, 7, 8 คือส่วนของสำนักงาน โดยที่ชั้น 8 จะมีในส่วนของห้องอาหาร (Canteen) สำหรับพนักงานด้วย และชั้นดาดฟ้า ที่จัดให้เป็น “Rooftop Organic Farm” ให้ผู้บริหารและพนักงานได้ร่วมกันปลูกผัก-ผลไม้ออร์แกนิค สำหรับไว้รับประทานอีกทั้งเพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของที่มาที่ไปของอาหาร ซึ่งหมดจะเป็นจุดเปลี่ยนให้บริษัทก้าวไปสู่องค์กร Wellbeing อย่างเต็มตัว

 

" เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ ระยะ 5 ปีที่วางไว้ (ปี 2558-2563) โดยอาคารสำนักงานใหม่ บุคลากรที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะช่วยในการขับเคลื่อนบริษัท เป็นสู่เป้าหมาย Wellbeing ได้อย่างดี ผ่านการเริ่มจากภายในก่อน และไปสู่พันธมิตร กลุ่มลูกค้า ต่อไป "

 

ทั้งนี้ ก้าวต่อไปหลังจากที่สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง Wellbeing อย่างลงลึก DNA ของพนักงานทุกคนภายในองค์กรแล้ว มั่นคงฯ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าโดยให้ความสำคัญในทุกมิติแห่งการอยู่อาศัย เริ่มตั้งแต่ การวางผังโครงการฯ การออกแบบตัวบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลม เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และช่วยให้ภายในบ้านมีอากาศถ่ายเทที่ดี การออกแบบฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยให้โปร่ง โล่ง สบาย หรือแม้แต่ การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงานต่างๆ โดย บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสิ่งต่างๆ ที่ได้ลงทำมือทำจะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้บริษัทเป็นองค์กรที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนได้

 

ขณะที่ผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2562 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 3,742 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย มีรายได้อยู่ที่ 3,237 ล้านบาท และธุรกิจเพื่อเช่าและเพื่อการบริการ 242 ล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่ 232.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 172.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561

 

ส่วนแผนธุรกิจปี 2563 นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า จะเป็นปีแรกที่บริษัทจะมีพอร์ตรายได้จากธุรกิจเพื่อขายและเช่าสมดุลกันที่ 50:50 ตามเป้าหมายที่วางไว้ระยะ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2558 โดยเป็นการปรับสัดส่วนจากรายได้เพื่อขายในอดีต 70% และเพื่อเช่าเพียง 30% แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในกลุ่มแนวราบมีการแข่งขันสูงมาก การรักษามาร์เก็ตแชร์ยากขึ้น และแม้มียอดขายมากขึ้น แต่พบกำไรน้อยลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าผ่านโกดังและโรงงานให้เช่า มีแนวโน้มเติบโตดี จากกลุ่มผู้เช่าซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติ สัญญาระยะยาว ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น รวมปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่โรงงานและโกดังให้เช่าประมาณ 1.5 แสนตร.ม เช่น พื้นที่ในโครงการฟรีเทรดโซนโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่า ย่านบางนา-ตราด ซึ่งมีอัตราการเช่าสูง 95% และเตรียมพัฒนาเพิ่มเติมอื่นๆ อีก 1.3 แสนตร.ม จะส่งผลให้ในอนาคตบริษัทมีพื้นที่เพื่อเช่าสูงถึง 2.8 แสนตร.ม กลายเป็นรายได้หลักให้กับบริษัท เมื่อนับรวมกับรายได้จากอพาร์ตเม้นท์ให้เช่า และโครงการสนามกอล์ฟอีกด้วย

 

" ในปี 2563 บริษัทจะยังรักษายอดขายปีเฉลี่ย 2.8 พันล้านบาทต่อปีให้ได้ แต่จำเป็นต้องขยายฐานรายได้ไปสู่ธุรกิจอื่นๆเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 รวมเปิดโครงการแนวราบใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ขณะที่ปีหน้ามีที่ดินรองรับแล้วหลายโครงการและกำลังมองหาที่ดินเพิ่มเติมเพื่อพัฒนากลุ่มบ้าน-ทาวน์เฮ้าส์เป็นหลัก รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท"