กูรู ชี้รัฐกระตุ้นอสังหาเอื้อทุนใหญ่

กูรูสะท้อนลดค่าโอน-จดจำนอง เอื้อทุนใหญ่มากกว่า คนซื้อบ้านเผยซัพพลายสะสม ทั้งเก่า-ใหม่ ทั่วประเทศกว่า 2 แสนหน่วย

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่า รัฐบาลพยายามจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แท้จริงแล้วเป็นการเพิ่มรายได้ให้กลุ่มทุนใหญ่มากกว่า เช่น การลดภาษีค่าธรรมเนียมโอนจาก 3% เหลือ 0.02% นั้น ก็ให้เฉพาะกรณีการซื้อบ้านกับบริษัทพัฒนาที่ดินเท่านั้น ไม่ได้ให้กับผู้ซื้อบ้านอันไพศาลเลย และอุปทานในตลาดประมาณ 204,000 หน่วยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น 2 ใน 3 ก็อยู่ในมือของบริษัทพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์ฯ แสดงว่าต้องการช่วยนายทุนใหญ่มากกว่านายทุนระดับ SMEs หรือประชาชนทั่วไป

ยิ่งกว่านั้นเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลยังลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่เคยคิดหาทางลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ รัฐบาลไม่เคยแตะต้องสถาบันการเงินที่คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึง 4-6 เท่าของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก การที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่างจากดอกเบี้ยเงินฝากมากมายขนาดนี้เป็นการปล่อยให้มีการค้ากำไรเกินควรหรือไม่ ธนาคารต่างๆ ก็ได้ค่าธรรมเนียมจากกิจการต่างๆ อยู่แล้ว หากสามารถลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงได้สัก 1-2% จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มหาศาล

ในทางตรงกันข้าม จะเห็นได้ว่ารัฐบาลพยายามโอบอุ้มข้าราชการ โดยได้มีการปรับเพิ่มเงินเดือน มีเงินโบนัส มีวันหยุดพักผ่อนมากกว่าเอกชน มีสวัสดิการมากมาย มีอภิสิทธิ์หลากหลาย แต่สำหรับประชาชนทั่วไป กลับได้รับการดูแลใส่ใจน้อยกว่ามาก ยิ่งโดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเจ้าหน้าที่ของภาครัฐได้ เช่น ข้าราชการ 4.3 คน มีค่ารักษาพยาบาล 71,000 บาท หรือได้ถัวเฉลี่ยคนละ 16,512 บาทต่อปี ในขณะที่ประชาชนทั่วไป 48.7 คน มีเงินกองทุน 30 บาท อยู่ 128,020 ล้านบาท หรือได้ค่ารักษาพยาบาลปีละ 2,629 บาทเท่านั้น

สัญญาณลักษณะนี้ จะส่งผลให้บมจ.แอล.พี.เอ็น. ลดทอนการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อย เพราะกำลังซื้อหายไป และเมื่อไทยให้ต่างชาติมาซื้อที่อยู่อาศัยได้โดยไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ ก็ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้น ก็ยิ่งทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสการซื้อที่อยู่อาศัยน้อยลงนั่นเอง

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,522 วันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2562