ดับฝันอสังหาฯไม่ผ่อนผันLTV

06 พ.ย. 2562 | 23:10 น.

 

ขุนคลัง ยัน LTV ดี ไม่จำเป็นต้องผ่อนปรนเงื่อนไข ชี้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องปรับตัว พุธนี้สรุปแคมเปญลดแลกแจกแถม พร้อมเสนอนายก ตั้งคณะกรรมการร่วมดูแลเสถียรภาพการเงินเร็วๆนี้

กรณีที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เรียกร้องให้กระทรวงการคลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เพื่อผ่อนปรนมาตรการอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV)

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่ามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลออกไปถือว่า เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีแนวคิดและความจำเป็นต้องหารือกับธปท.เพื่อขอให้ผ่อนปรนมาตรการ LTV อีก เพราะมองว่า เป็นมาตรการที่ธปท.เห็นว่า เหมาะสมที่จะนำมาบังคับใช้ ซึ่งโดยส่วนตัวก็มองว่าดีเช่นกัน เนื่องจากในระยะยาวจะส่งผลดีต่อวินัยทางการเงินของประชาชนและโดยรวม 

ดับฝันอสังหาฯไม่ผ่อนผันLTV

“มาตรการที่ออกมาอาจเป็นมาตรการใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ จึงทำให้เกิดผลกระทบในช่วงนี้ได้ ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เองก็จะต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับมาตรการที่บังคับใช้ด้วย เพื่อประโยชน์กับทุกฝ่าย ซึ่งธปท.ก็ได้ให้เวลากับผู้ประกอบการในการปรับตัวแล้วเช่นกัน เราคงไม่ไปทำอะไรเพราะเชื่อว่า ธปท.คิดมาดีแล้ว โดยให้ความสำคัญกับเสถียรภาพมากๆ ซึ่งการควบคุมการปล่อยสินเชื่อแบบนี้จะส่งผลดีต่อระบบ เชื่อว่าธปท.เอง ก็ต้องประเมินเช่นกันว่า มาตรการนี้ที่ออกไปจะเป็นอย่างไรบ้าง”นายอุตตมกล่าว

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลังไปหารือร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เพื่อจะสรุปแคมเปญที่จะจัด เพื่อลดราคาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจจะหารือถึงมาตรการ LTV ที่ยังไม่มีการผ่อนปรนในครั้งนี้ด้วย

 

ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า ผลพวงจากนโยบายควบคุมสินเชื่อบ้านด้วยมาตรการ LTV ทำให้ตลาดอสังหาฯชะลอตัวลง หากไม่มีการยกเว้นการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวออกไป จะยิ่งทำให้ตลาดชะลอตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า เพราะผู้ที่มีกำลังซื้อบ้านสัญญาแรกมีจำนวนเท่าไหร่ และคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน มีจำนวนเท่าไหร่ที่มีความสามารถซื้อบ้านหลังแรกได้ เป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้ประกอบการอสังหาฯ ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี

ดังนั้นทิศทางการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆในปีหน้า คงจะลดจำนวนลง เนื่องจากกำลังซื้อมีจำกัด ข้อเสนอหนึ่งที่อยากให้ภาครัฐพิจารณาคือ อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถพักอาศัยในประเทศไทยระยะยาว 10 ปี แต่ต้องรายงานตัวกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ต.ม.)ทุกปี ซึ่งช่วงปลายปีนี้ทุกรายต้องเร่งการขาย เตรียมจัดแคมเปญร่วมกันทั่วประเทศกับมาตรการของกระทรวงการคลัง ที่ลดค่าธรรมเนียม การโอนจาก 2% และการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% และสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยพิเศษ 2.5% ภายใต้วงเงิน 50,000 ล้านบาทของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)

ดับฝันอสังหาฯไม่ผ่อนผันLTV

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและค่าเงินบาทแข็ง ผู้ประกอบการต้องปรับตัว โดยรายได้ยังคงเปิดตัวโครงการใหม่ตามปกติ แต่ไม่รุกหนักเหมือนที่ผ่านมา จึงอยากให้ผู้บริหารของธปท.มองอสังหาฯในมุมใหม่ เป็นการออมเงินรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่หนี้ครัวเรือน เนื่องจากวันนี้ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะรถไฟฟ้าขยายตัวออกสู่ปริมณฑลและครอบคลุมทุกพื้นที่ 

ดังนั้นการมีบ้านหลังที่2 ถือเป็นความจำเป็นของคนในเมือง เช่นเดียวกับลูกค้าต่างชาติที่ปัจจุบันมีบทบาทสำคัญต่อตลาดอสังหาฯของไทย โดยปีที่ผ่านมายอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 28% มูลค่า 92,000 ล้านบาท ถือว่ามีส่วนช่วยพยุงตลาดคอนโดมิเนียมอย่างดี ช่วยให้ตลาดเติบโต 14%

“ที่อยู่อาศัยกลุ่มแวลูเป็นตลาดราคากลาง-ล่างนั้น บ้านเปล่าๆ ผู้ซื้อไม่สามารถอยู่ได้ แม้จะลดค่าโอน จดจำนองเหลือ 0.01% แต่ก็ต้องมีงบติดตั้งมุ้งลวด เหล็กดัด ซึ่งได้จากสินเชื่อบ้านที่อนุมัติให้ ซึ่งถือว่ารัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้ยื่นมือมาช่วยภาคอสังหาฯจนสุดมือแล้ว” 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3520 วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2562

ดับฝันอสังหาฯไม่ผ่อนผันLTV