‘แสนสิริ’เปิด10โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้าน/เป้ายอดขายแนวราบปี59 โต 30%
แสนสิริ มั่นใจตลาดแนวราบโตต่อเนื่อง ลุยเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท เล็งพัฒนาโครงการระดับบนต่อเนื่อง เน้นโครงการพร้อมอยู่ ประกาศต่อยอดเปิดแบรนด์สราญสิริและคณาสิริรองรับความต้องการลูกค้า ประเดิมเปิด 3 โครงการใหม่ ครึ่งแรกปี 2559 มูลค่ารวม 7.34 พันล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวมโครงการแนวราบปี 2559 ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 30%
[caption id="attachment_40746" align="aligncenter" width="352"]
เมธา อังวัฒนพานิช
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)[/caption]
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมสถานการณ์บ้านเดี่ยวในช่วงครึ่งแรกปี 2559 ว่า คาดว่าจะมีจำนวนโครงการใหม่เปิดตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นอสังหาฯผ่านการลดค่าธรรมเนียมการ โอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งเป็นตัวเร่งที่ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้รวดเร็วขึ้น
โดยราคาบ้านคาดว่าจะไม่มีการขยับราคาขาย เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างที่ถูกลงตามการปรับราคาน้ำมัน ขณะที่ค่าแรงงานและค่าที่ดินยังคงมีราคาสูง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปี 2560 ภาพรวมราคาบ้านอาจจะมีการขยับราคาเพิ่มขึ้น สำหรับจำนวนบ้านเดี่ยวในปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 11,404 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาดูดซับประมาณ 9 เดือนจึงจะหมด โดยอาศัยการเติบโตของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้ความต้องการซื้อขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยการสำรวจเบื้องต้นพบว่าจะมีสินค้าใหม่เตรียมเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีแรก 2559 อีกไม่น้อยกว่า 6,000 หน่วย คาดว่าจะให้น้ำหนักการลงทุนไปที่สินค้าระดับกลาง-บน ราคา ตั้งแต่ 5.00-9.99 ล้านบาทมากขึ้น
สำหรับภาพรวมตลาดทาวน์เฮาส์ มองว่า หากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านรถไฟฟ้า ในเส้นทางต่างๆ มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น อาจส่งผลให้ปริมาณสินค้าและความต้องการในตลาดทาวน์เฮาส์ ช่วงครึ่งปีแรก 2559 เติบโตสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ ในกลุ่มราคา 1-4.99 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถดูดซับสินค้าคงค้างในตลาดกว่า 13,000 หน่วย ได้ภายในระยะเวลา 7 เดือน
"สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการแนวราบในปี 2559 บริษัทจะยังนำเสนอโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 100% เพื่อตอบรับความต้องการเข้าอยู่อาศัยได้ทันทีซึ่งจะส่งผลต่อการรับรู้รายได้ที่รวดเร็วอีกด้วย รวมทั้งจะมีกลยุทธ์การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมเกือบทุกระดับราคา เพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวที่ครอบคลุมแบรนด์ที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งเศรษฐสิริ – บุราสิริ – สราญสิริ – คณาสิริ รวมถึงทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ ทาวน์ อเวนิว รวมทั้งจะมีการต่อยอดเปิดโครงการแนวราบในตลาดต่างจังหวัดที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงจากคนที่อยู่อาศัย และทำงานในพื้นที่ เช่น ภูเก็ต เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสำหรับโครงการแนวราบในปีนี้ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 58 ซึ่งมียอดขาย 1.1 หมื่นล้านบาท ประมาณ 30%" นายเมธา กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 7 โครงการและโครงการทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 7.34 พันล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการเศรษฐสิริ วงแหวน – ลำลูกกา มูลค่ารวม 2.3 พันล้านบาท 2.โครงการบุราสิริ รังสิต มูลค่า 1.94 พันล้านบาท และ 3.โครงการเศรษฐสิริ พัฒนาการ มูลค่า 3.1 พันล้านบาท โดยจะเปิดตัวในช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม 2559
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_40746" align="aligncenter" width="352"]
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)[/caption]
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมสถานการณ์บ้านเดี่ยวในช่วงครึ่งแรกปี 2559 ว่า คาดว่าจะมีจำนวนโครงการใหม่เปิดตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นอสังหาฯผ่านการลดค่าธรรมเนียมการ โอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งเป็นตัวเร่งที่ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้รวดเร็วขึ้น
โดยราคาบ้านคาดว่าจะไม่มีการขยับราคาขาย เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างที่ถูกลงตามการปรับราคาน้ำมัน ขณะที่ค่าแรงงานและค่าที่ดินยังคงมีราคาสูง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปี 2560 ภาพรวมราคาบ้านอาจจะมีการขยับราคาเพิ่มขึ้น สำหรับจำนวนบ้านเดี่ยวในปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 11,404 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาดูดซับประมาณ 9 เดือนจึงจะหมด โดยอาศัยการเติบโตของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้ความต้องการซื้อขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยการสำรวจเบื้องต้นพบว่าจะมีสินค้าใหม่เตรียมเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีแรก 2559 อีกไม่น้อยกว่า 6,000 หน่วย คาดว่าจะให้น้ำหนักการลงทุนไปที่สินค้าระดับกลาง-บน ราคา ตั้งแต่ 5.00-9.99 ล้านบาทมากขึ้น
สำหรับภาพรวมตลาดทาวน์เฮาส์ มองว่า หากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านรถไฟฟ้า ในเส้นทางต่างๆ มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น อาจส่งผลให้ปริมาณสินค้าและความต้องการในตลาดทาวน์เฮาส์ ช่วงครึ่งปีแรก 2559 เติบโตสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ ในกลุ่มราคา 1-4.99 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถดูดซับสินค้าคงค้างในตลาดกว่า 13,000 หน่วย ได้ภายในระยะเวลา 7 เดือน
"สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการแนวราบในปี 2559 บริษัทจะยังนำเสนอโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 100% เพื่อตอบรับความต้องการเข้าอยู่อาศัยได้ทันทีซึ่งจะส่งผลต่อการรับรู้รายได้ที่รวดเร็วอีกด้วย รวมทั้งจะมีกลยุทธ์การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมเกือบทุกระดับราคา เพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวที่ครอบคลุมแบรนด์ที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งเศรษฐสิริ – บุราสิริ – สราญสิริ – คณาสิริ รวมถึงทาวน์เฮาส์ภายใต้แบรนด์ ทาวน์ อเวนิว รวมทั้งจะมีการต่อยอดเปิดโครงการแนวราบในตลาดต่างจังหวัดที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงจากคนที่อยู่อาศัย และทำงานในพื้นที่ เช่น ภูเก็ต เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสำหรับโครงการแนวราบในปีนี้ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 58 ซึ่งมียอดขาย 1.1 หมื่นล้านบาท ประมาณ 30%" นายเมธา กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 7 โครงการและโครงการทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 7.34 พันล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการเศรษฐสิริ วงแหวน – ลำลูกกา มูลค่ารวม 2.3 พันล้านบาท 2.โครงการบุราสิริ รังสิต มูลค่า 1.94 พันล้านบาท และ 3.โครงการเศรษฐสิริ พัฒนาการ มูลค่า 3.1 พันล้านบาท โดยจะเปิดตัวในช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม 2559
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559