นวัตกรรม-คุณภาพ ดัน‘โตโต้’อันดับ1 ครองใจผู้บริโภค
คอลัมน์ผ่ามุมคิด
เพียง 10 ปีที่ โตโต้ ยักษ์ใหญ่สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องนํ้าจากญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ติดอันดับ 1 ใน 3 กลุ่มสุขภัณฑ์ไฮเอนด์ โดยเป้าหมายต่อไป “ฮิโรยูกิ ซูซูกิ” ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย)ฯ จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคภายในอีก 5 ปี ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ฮิโรยูกิ ซูซูกิ วางกลยุทธ์ที่ไปสู่เป้าหมายที่สำคัญ เริ่มจากสร้างโรงงานผลิตสุขภัณฑ์โตโต้ แห่งที่ 2 ที่จังหวัดสระบุรี เมื่อปี 2560 และจะเริ่มเดินเครื่องผลิตตั้งแต่เดือนเมษายน ปีนี้ ใช้งบลงทุนกว่า 2,800 ล้านบาท โดยโรงงานแห่งนี้ผลิตสุขภัณฑ์เป็นหลัก และประกอบฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET บางส่วน เพื่อรองรับตลาดไฮเอนด์ วางเป้าหมายจะผลิตตลอด 24 ชั่วโมง ต่อ 6 วัน ต่อสัปดาห์ ประเมินกำลังการผลิตประมาณ 420,000 ชิ้นสำหรับตลาดในประเทศ ภูมิภาคอาเซียนและสหรัฐอเมริกา
“เรามีโรงงานในไทยและเวียดนาม แต่เลือกประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการกระจายสินค้าระดับโลก เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของแรงงานไทย รวมถึงไทยมีความได้เปรียบในด้านของภาษีส่งออกมากกว่าหลายประเทศข้างเคียง”
อีกกลยุทธ์ตามโรดแมป สินค้าที่ผลิตจากโรงงานของโตโต้ จะต้องเป็นที่ยอมรับทั้งคุณภาพและมาตรฐานในทุกระดับชั้น รวมทั้งต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานระดับโลก และสำคัญที่สุดคือมาตรฐานของโตโต้ กรุ๊ป ภายใต้การควบคุมและตรวจสอบที่เข้มข้นที่สุด จะต้องได้รับการตรวจสอบแบบ 100% ทุกชิ้นงาน
ฮิโรยูกิ ซูซูกิ
“นโยบายของผมจะไม่ยอมให้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพออกจากโรงงานแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะหากสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพหลุดออกไปยังผู้บริโภค นั่นคือความเสียหายที่ลูกค้าได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์การตลาด จะเน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมากขึ้น อาทิ การจัดงานอีเวนต์, โปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมกับร้านค้า, การปรับ ปรุงโชว์รูมใหม่ ณ จุดขาย หรือแม้แต่การขยายผู้แทนจำหน่าย เพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มี 53 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการเพิ่มทีมบริการหลังการขาย และศูนย์ TOTO ที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ เพื่อผลักดันให้แบรนด์โตโต้ เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น
ล่าสุดได้เปิดตัว NEOREST Series สุขภัณฑ์อัจฉริยะ ดีไซน์หรูพร้อมนวัตกรรมลํ้าสมัยที่เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์โตโต้ โดยมีรุ่น NEOREST DH ที่ทำราคาไม่ถึง 1 แสนบาท เพื่อให้ลูกค้าที่อยากใช้สินค้าโตโต้ สามารถซื้อได้ คาดหวังว่าสินค้าซีรีส์นี้จะเป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ สำหรับผลประกอบการของบริษัท ในปี 2562 ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2561
“ที่ผ่านมาเราสามารถขายฝารองนั่งอัตโนมัติได้กว่า 40 ล้านชิ้น เป็นตัวสร้างแบรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้จักโตโต้ แต่ต่อไปเราคาดหวังว่าจะเป็นสุขภัณฑ์”
นายฮิโรยูกิ ยํ้าว่าโตโต้ ประเทศไทย ยังคงมองเห็นศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจของไทยยังชะลอตัวอยู่ เนื่องจากหลายปัจจัยแต่เชื่อว่าด้วยศักยภาพของประเทศไทยน่าจะขยายได้อีกมาก เชื่อว่าตลาดยังสามารถโตได้อีกหลายเท่า
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,449 วันที่ 3-6 มีนาคม 2562
