‘เอสซี’ ย้ำเจ้าตลาดบ้านหรู เล็งปีนี้เปิด 5 โครงการใหม่มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท

26 มี.ค. 2559 | 04:00 น.
เอสซีฯตอกย้ำผู้นำตลาดบ้านหรู ปี’59 เปิด 5 โครงการใหม่ภายใต้แนวคิด 1 โครงการ 1 แรงบันดาลใจ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท "ณัฐพงศ์"เผยเซกเมนท์กลุ่มราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปเติบโตดี กลุ่ม 3-5 ล้านบาทการโอนจะยาก เหตุหนี้ครัวเรือนสูง 80%

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯเน้นพัฒนาตลาดบ้านหรู (Luxury Homes) มากกว่า 80% โดยกลุ่มราคามากกว่า 15 ล้านบาทยังไปได้ดี เพราะการลงทุนในส่วนอื่นๆยังไม่แน่นอนตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นตลาดที่ยังคงมีสภาพคล่องที่ดี สำหรับตลาดบ้านหรูนี้ในปี 2558 ที่ผ่านมามีประมาณ 2,400 หลัง มูลค่าคิดเป็น 20% ของตลาดแนวราบทั้งตลาด จากเดิมอยู่ที่ 10% ทำให้ปี 2559 เอสซีฯวางแผนเตรียมเปิดบ้านหรูราคามากกว่า 15 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ "แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด" อีก 5 โครงการ มูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท เน้นฟื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกและตะวันตก แบ่งเป็นกรุงเทพฯตะวันตก 2 โครงการ มี ราชพฤกษ์-พระราม5 และ ราชพฤกษ์-จรัญฯ ส่วนฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก 3 โครงการ มี พระราม 9 –กรุงเทพ กรีฑา , สุขุมวิท และแบรนด์ใหม่ไม่ใช่แกรนด์บางกอก บริเวณปุณณวิถี สุขุมวิท 101 เมื่อรวมมูลค่าโครงการใหม่กับ 6 โครงการที่ยังเปิดขาย 4.5 พันล้านบาท รวมมูลค่า ทั้งหมด 1.45 หมื่นล้านบาท

ภาพรวมยอดขายพรีเซลส์แนวราบของเอสซีฯ รอบ 2 เดือนครึ่งปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยที่อาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก ที่สำคัญบ้านหรูกลุ่มลักชัวรี่ยังขายได้เหมือนเดิม จะเห็นได้จากโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ที่เปิดไป2โครงการ ที่ราชพฤกษ์-จรัญฯ และสุขุมวิทได้รับการตอบรับดี โดยเฉพาะที่สุขุมวิท ปัจจุบันขายได้ 6 หลังคิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท

"วันนี้การตัดสินใจซื้อบ้านหรูลูกค้าใช้เวลาในการตัดสินใจเฉลี่ยประมาณ 3 เดือนสำหรับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นโครงการเปิดใหม่ เช่นที่แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ราคาเริ่มต้นที่ 35 ล้านบาท ลูกค้าใช้เวลาเพียง 1 เดือน เห็นได้ช่วงเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา สามารถขายได้ 4 หลัง ส่วนหนึ่งผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ"

สำหรับแนวคิดการพัฒนาบ้านหรูเพื่อรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำบ้านหรูก็คือ 1 โครงการ 1 แรงบันดาลใจ โดยทุกโครงการก่อนการพัฒนาจะมีการศึกษาบริบทของทำเลที่ตั้ง (Context) และพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการลูกค้า (Customize) พร้อมรังสรรค์อย่างประณีตบรรจง (Craft) ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะคำว่า"ลักชัวรี่"ของเอสซีฯคือความมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งนี้ 5 โครงการ 5 ทำเล มีคอนเซปต์แตกต่างกัน เช่น แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท คอนเซปต์ English Craftman เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ คอนเซปต์ Luxury Colonial สังคมคหบดีเก่า

นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ต้องจับตาตลาดบ้านใน 3 กลุ่ม มี กลุ่มราคา 15 ล้านบาทขึ้น กลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท และกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท โดยปีนี้กลุ่มที่มียอดขายดีคือราคามากกว่า 15 ล้านบาทแน่นอน ไม่ว่าจะมีมาตรการหรือไม่มีก็เชื่อว่าตลาดยังมีการเติบโตแน่นอน เมื่อก่อนบ้านราคามากกว่า 15 ล้านบาท ส่วนกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท ชะลอตัวลง ต้องปรับกลยุทธ์เพราะหนี้ครัวเรือนยังสูงอยู่ แม้ว่าล่าสุดอัตราการเติบโตของหนี้ครัวจะลดลงก็ตาม และหนี้ครัวเรือนเป็นปัจจัยที่ทำให้การโอนเป็นไปได้ยากขึ้น ยิ่งระดับราคา 3-5 ล้านบาท ตลาดค่อนข้างฝืดมาก บริษัทฯต้องปรับกลยุทธ์ทุกไตรมาส

ปัจจุบันเอสซีฯมีโครงการต่อเนื่องที่เปิดขายอยู่ทั้งหมด จำนวน 33 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือเพื่อขายรวมประมาณ 2.4หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 24 โครงการ และโครงการแนวสูง 9 โครงการ ด้านยอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ประมาณ 8,090 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 60% ส่วนสต๊อคพร้อมโอนมีประมาณ 5พันล้านบาท

นายจำนงค์ บัวไขย กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA ได้ร่วมเปิดเผยข้อมูลผลสำรวจจากบจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า โครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมดราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ณ สิ้นปี 2558 ที่ผ่านมา เอสซีฯ มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอันดับ 1 โดยสามารถขายบ้านเดี่ยวราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 83 หน่วย รวมมูลค่าที่ขายได้ 2,458 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของอุปทานบ้านเดี่ยวในระดับราคานี้ ที่ขายได้ทั้งหมด 460 หน่วย รวมมูลค่า 12,096 ล้านบาท โดยมีราคาขายเฉลี่ยหน่วยละ 29.6 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,141 วันที่ 20 - 23 มีนาคม พ.ศ. 2559