เร่งต่อยอดประตูค้าชายแดน เนด้าลุยเชื่อมสาธารณูปโภคสู่ลาวเปิดช่องทางลงทุน

เนด้าเร่งต่อยอดประตูการค้าชายแดน เผยสปป.ลาวเห็นผลชัดด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนเชื่อมอุตรดิตถ์-เมืองปากลาย งานระบบไฟฟ้า-ประปาในนครหลวงเวียงจันทน์ เบนเข็มดันโครงข่ายคมนาคมเชื่อมเมียนมาร์-กัมพูชา-เวียดนามเพิ่ม ล่าสุดครม.อนุมัติอีก 2 โครงการให้สปป.ลาวและกัมพูชารวมวงเงินกว่า 1.2 พันล้านบาท ย้ำไทยยังมีโอกาสรับงานที่ปรึกษาและงานก่อสร้างเพียบ

[caption id="attachment_32933" align="aligncenter" width="361"] นายเนวิน สินสิริ
ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน) สพพ.[/caption]

นายเนวิน สินสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน) สพพ. หรือเนด้า เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยเฉพาะตาม 5-6 จังหวัด ซึ่งถือเป็นประตูการค้าชายแดนไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ เนด้าได้ให้ความสำคัญในการต่อยอดเส้นทางเชื่อมโยงไปยังประเทศต่างๆ ให้ได้รับความสะดวก สามารถเดินทาง หรือขนส่งสินค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดจนการกระจายด้านชุมชนเมืองจากประโยชน์ของการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ไทยได้ไปลงทุนในแต่ละประเทศ

ล่าสุดปี 2558 มีโครงการที่เซ็นสัญญาไปเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบประปา 5 แห่งใน สปป.ลาว อีกทั้งมีโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากท่านาแล้งไปยังคอนเทนเนอร์ยาร์ตในสปป.ลาว ซึ่งถือเป็น 2 โครงการที่ดำเนินการในปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำหรับโครงการใหม่อีก 2 โครงการ รวมวงเงิน 1,241 ล้านบาท คือ โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อให้พร้อมรองรับการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท ในสปป.ลาวปี 2559 นี้ และโครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมไปยังถนนหมายเลข 5 ราชอาณาจักรกัมพูชา

"โอกาสของผู้รับเหมาไทยและกลุ่มบริษัทที่ปรึกษายังมีโอกาสอย่างมาก โดยโครงการแรกเซ็นสัญญาได้ผู้รับเหมา ที่จะเข้าไปรับดำเนินการแล้ว คือ บริษัท ไฮโดร เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ส่วนบริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาโครงการ พื้นที่ครอบคลุมชายแดนไทยตั้งแต่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วเรื่อยไปจนถึงเมืองโขง แขวงจำป่าสัก ผ่านแขวงไชยบุรี แขวงอุดมไชย แขวงสะหวันนะเขต ในส่วนด่านสตึงบทนั้นจะเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ เพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้า ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ตามแผนงาน GMS นั่นเอง"

นอกจากนั้นโครงการก่อสร้างถนนสาย R11 ระยะที่ 2 ช่วงเมืองปากลาย-บ้านน้ำสังข์ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรนั้น จะเชื่อมโยงกับด่านภูดู่ ชายแดนจังหวัดอุตรดิตถ์ของไทยซึ่งจัดเป็นระยะแรกได้ดำเนินการไปแล้วระยะทางประมาณ 82 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สปป.ลาว

"ประโยชน์ของเส้นทางนี้จะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงเส้นทางจากจังหวัดเชียงใหม่-สปป.ลาว ซึ่งประเทศเนเธอร์แลนด์ยังจะช่วยสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงจากช่วงปากลายให้กับสปป.ลาวในเส้นทางนี้อีกด้วย ส่งผลให้ภาคเหนือตอนล่างของไทยสามารถเดินทางผ่านด่านภูดู่ไปยังเวียงจันทน์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นโดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 3-4 ปีนี้"

ทั้งนี้โครงการสำคัญที่เนด้าอยู่ระหว่างการให้ความช่วยเหลือกับประเทศต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ประกอบไปด้วยโครงการในสปป.ลาว ได้แก่ โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในนครหลวงเวียงจันทน์ วงเงินให้กู้ 313 ล้านบาท โครงการปรับปรุงและก่อสร้างถนน ช่วงบ้านฮวก (จ.พะเยา)-เมืองคอบ-เมืองเชียงฮ่อน และเมืองคอบ-บ้านปากคอบ-บ้านก้อนตื้น สปป.ลาว วงเงินให้กู้ 1,390 ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบประปา 5 แห่งในสปป.ลาว วงเงิน 310 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายท่านาแล้ง เวียงจันทน์ สปป.ลาว วงเงิน 1,650 ล้านบาท

โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ วงเงิน 1,785 ล้านบาท โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมไปยังถนนหมายเลข 5 ราชอาณาจักรกัมพูชา วงเงิน 928 ล้านบาท โครงการในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้แก่ โครงการก่อสร้างประตูกั้นน้ำ Tan Thuan นครโฮจิมินห์ วงเงิน 1,184 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลสตรี วงเงิน 1,260 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,133 วันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559