กาวจระเข้หนีแข่งขันเดือด หันรุกตลาดรีโนเวต ต่างประเทศ

16 ก.พ. 2559 | 09:00 น.
เซอรา ซี-เคียวรุกตลาดรีโนเวทหลังตลาดอสังหาฯซึมพิษเศรษฐกิจ เผยเทรนด์พฤติกรรมเจ้าของบ้านเลือกซื้อสินค้าเองมากขึ้น มีเครือข่ายร้านค้าพันธมิตร 4 พันรายทั้งดีลเลอร์และโมเดิร์นเทรด ทั้งมุ่งขยายส่งออกตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำเอเชียคาดปีนี้ขายโต 15%

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซอรา ซี-เคียว จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาวซีเมนต์และกาวยาแนว ตรา“จระเข้” เผยถึงแผนธุรกิจในปีนี้ เน้นรุกตลาดซ่อมสร้างมากขึ้น เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันกระทบตลาดบ้านใหม่มีกำลังซื้อที่ถดถอยลง ทั้งนี้มีความเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ จระเข้ จะเติบโตได้ในตลาดซ่อมสร้าง (Renovate) โดยมีผลิตภัณฑ์เคมีซีเมนต์เพื่อแก้ปัญหาร้าว รั่ว ซึม ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์จระเข้เขียว เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างยอดขายมากสุด

สำหรับผลิตภัณฑ์สินค้าของจระเข้ มี 3 กลุ่ม นอกจากกลุ่มเคมีซีเมนต์แก้ปัญหาร้าว รั่วซึม ยังมีผลิตภัณฑ์ติดตั้งและตกแต่งกระเบื้อง และกลุ่มผลิตภัณฑ์คัลเลอร์ซีเมนต์ แต่ละปีจะมีการผลิตสินค้าใหม่ๆในไลน์เดิมออกสู่ตลาด เป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของตราจระเข้ โดยปีนี้จะมี 2-3 สินค้า ส่วนการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆยังไม่มี

ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายปัจจุบันมีร้านค้าที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจถึง 4 พันร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรดต่างๆ ดีลเลอร์ทั้งรายใหญ่รายเล็ก รวมไปถึง โครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้จะเน้นหนักด้านการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดทีมวิทยากรอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้กับร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย สนับสนุนสื่อในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมการขายต่างๆ

นอกจากตลาดในประเทศแล้ว ปีนี้ได้เริ่มขยายตลาดสู่ประชาคมอาเซียนเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งจะเน้นส่งออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้ามูลค่าสูง เพื่อให้ได้เม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ประเทศไทย หลังวางรากฐานมาแล้วใน 8 ประเทศ โดยเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์แบรนด์จระเข้ สู่ตลาดต่างประเทศตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งทำการส่งออกสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน 4 ประเทศหลักคือ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม หรือที่เรียกกันว่าประเทศในกลุ่ม CLMV ส่วนตลาดโลก ได้แก่ ประเทศจีน บังคลาเทศ แคนาดา และมัลดีฟส์ ส่งผลให้ปี 2558 ที่ผ่านมา มียอดขายประมาณ 2.3 พันล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% ส่วนปี 2559 นี้ วางแผนก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวอันดับ 1 ของตลาดอาเซียน และเอเชียตามลำดับ โดยมีเป้าหมายยอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 15% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,645 ล้านบาท

นายศุภพงษ์ ได้กล่าวถึงภาพรวมตลาดอุปกรณ์เพื่องานก่อสร้างว่า ปี2558ตลาดรวมถือว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเรื่องสงครามราคา และคาดว่าปีนี้การแข่งขันจะสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากมีผู้เล่นหน้าใหม่จากต่างประเทศเข้ามาแข่งขันในประเทศเพิ่มมากขึ้น หากมองถึงการเติบโตของตลาดโดยรวม คาดว่าคงไม่แตกต่างจากปี 2558 เท่าใดนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย ส่วนเรื่องคู่แข่งยังคงจับตามองคู่แข่งรายใหม่ๆ อย่างใกล้ชิด แต่ถึงอย่างไรบริษัทเชื่อมั่นว่าจะยังรักษาแชมป์ความเป็นผู้นำในตลาดไว้ได้อย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,131 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559