จี้ผ่อนเกณฑ์‘บ้านฅนไทย’

บิ๊กอสังหาฯ เสนอคลังปรับเกณฑ์ “หนี้สินต่อรายได้ ขยับจาก 30-50% เป็น 80% ดึงแบงก์รัฐร่วมแชร์ความเสี่ยง จูงใจเอกชนลงทุน “บ้านฅนไทย” ด้านอธิบดีธนารักษ์ นัดถกกรอบทีโออาร์ สปส.อุ้มสมาชิกจ่อชงยืดดบ.คงที่ 2.75% เป็น 6 ปี

ความคืบหน้าหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการ โครงการบ้านฅนไทย

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันที่ 17 มกราคม 2561 กรมธนารักษ์จะเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อกำหนดร่างขอบเขตของงาน (TOR) โดยได้เชิญ ผู้บริหารภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ผู้บริหารแบงก์รัฐ (ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หอการค้าและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง คาดจะได้ข้อสรุป ก่อนส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาเมื่อผ่านแล้ว จึงจะออกเงื่อนไขการประมูลให้เอกชนมาร่วมลงทุน

[caption id="attachment_174691" align="aligncenter" width="335"] “พชร อนันตศิลป์” อธิบดีกรมธนารักษ์[/caption]

“การหารือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมา มีคอมเมนต์เข้ามามาก มองว่ามาร์จินตํ่า ทำแล้วต้องแบกความเสี่ยงสูง จึงอยากให้แบงก์รัฐเข้ามาแชร์รับความเสี่ยง ซึ่งก็ต้องเข้าใจแบงก์รัฐเหมือนกัน เพราะหากต้องรับความเสี่ยงสูง รัฐก็ต้องชดเชย จึงต้องมาหาทางออกที่ทุกฝ่ายรับได้ เบื้องต้นกรมคำนวณกำไรที่เอกชนได้รับคาดไม่เกิน 15-20%” นายพชร กล่าวและว่า

ในระหว่างนี้รอการพิจารณาจากอัยการ กรมได้เร่งขับเคลื่อนโครงการไปพร้อมๆ กัน เช่นตั้งอนุกรรมการในพื้นที่ 8 จังหวัดที่ดำเนินโครงการบ้านฅนไทย โดยมีระดับรองอธิบดี/ที่ปรึกษาฯเป็นประธานคณะทำงาน ร่วมกับคณะกรรมการจังหวัดและหอการค้าในพื้นที่เพื่อกำกับดูแล การขึ้นป้ายเตรียมพร้อมประชาพิจารณ์ เป็นต้น

ส่วนกรณีที่ สำนักงานประกันสังคม (สปส.)จะเสนอให้ธนาคารรัฐ ต่ออายุดอกเบี้ยตํ่าคงที่จากโครงการนี้ที่คิด 2.75% นาน 3 ปี ไปเป็น 6 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ประกันตน แลกกับที่สปส. นำเงินไปฝาก เป็นสิ่งที่ทำได้อยู่แล้ว ขึ้นกับการเงื่อนไขของทั้ง 2 ฝ่ายจะไปตกลงกันเอง

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทพฤกษา โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงื่อนไขเดียวที่ทางบริษัท อยากให้ธนาคารรัฐพิจารณาผ่อนผันคือ เกณฑ์พิจารณา DSR (สัดส่วนหนี้สินต่อรายได้) จากอัตราหนี้ที่คำนวณจากรายได้ต่อเดือนปกติอยู่ในช่วง 30-50% ของรายได้ ให้เป็น 80% ของรายได้

ยกตัวอย่างรายได้ต่อเดือน 20,000 บาท อัตราหนี้สินที่ต้องผ่อนต้องไม่เกิน 6,000-10,000 บาท ให้เป็น 80% หรือเป็นไม่เกิน 16,000 บาท

สอดคล้องกับ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเงื่อนไขเดียวที่ภาคธุรกิจอสังหาฯ อยากให้ผ่อนผันเรื่องดอกเบี้ย และเกณฑ์ SDR คือให้คนเป็นหนี้ มีโอกาสได้เป็นเจ้าของบ้านฅนไทยได้

นางนิยดา เสนีย์มโนมัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านประกันสังคม สปส. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปในด้านเงื่อนไข แต่นโยบายที่คณะกรรมการสปส. เสนอไปล่าสุด เราอยากให้ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประกันตนเพิ่ม โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ที่คิดคงที่ 2.75 % นาน 3 ปี อยากให้ขยายเป็น 6 ปี

“โครงการบ้านฅนไทย ให้สิทธิผู้มีรายได้น้อยในโครงการสวัสดิการเพื่อรัฐก่อน ซึ่งความต้องการเราอยากให้กรมธนารักษ์ ทำพร้อมกันหมด คือใครมาก่อนได้ก่อน สปส.ยังอยู่ระหว่างการเจรจาแบงก์รัฐ เพื่อให้คิดดอกเบี้ยตํ่าคงที่ 2.75% กับสมาชิกนานขึ้นคือขยายเป็น 6 ปี แลกกับการที่ สปส.นำเงินไปฝาก ในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท”

โครงการดังกล่าว ธนาคารออมสินและธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.) จะเป็นผู้พิจารณาให้สินเชื่อในลักษณะเช่าซื้อ สูงสุด 30 ปี กรณีผู้มีรายได้น้อยตามโครงการสวัสดิการเพื่อรัฐ และผู้ประกันตน จะคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.75% นาน 4 ปี หลังจากนั้นปีที่ 5-30 คิดอัตราเอ็มแอลอาร์ ลบ 0.75-1.00% แต่กรณีลูกค้าทั่วไปจะไม่ได้รับสิทธิดอกเบี้ยดังกล่าว ส่วนสินเชื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการ คิดดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 3% นาน 3 ปี ส่วนปีที่ 4-5 คิดอัตราดอกเบี้ย เอ็มแอลอาร์ ลบ 1%

บ้านฅนไทย จะดำเนินในพื้นที่ 8 แปลง ครอบคลุม 4 ภาค บนที่ดินราชพัสดุ จำนวน 2,757 ยูนิต (เป็นจำนวนขั้นตํ่า เปลี่ยน แปลงได้ขึ้นกับภาคธุรกิจเป็นผู้กำหนด) เป็นจังหวัดชลบุรี 186 ยูนิต, ประจวบ 139 ยูนิต, อุดรธานี 264 ยูนิต, นครพนม 322 ยูนิต, ลำปาง 618 ยูนิต, เชียงราย 352 ยูนิต, เชียงใหม่ 584 ยูนิต และขอนแก่น 292 ยูนิต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18 - 20 มกราคม พ.ศ. 2561