สัมภาษณ์พิเศษ | ‘PPS GROUP’ กางแผน 5 ปี รายได้แตะพันล้าน
สัมภาษ์พิเศษ ‘พงศ์ธร ธาราไชย’ โดย ฐานเศรษฐกิจ | ดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารงานก่อสร้างมาจนย่างเข้าสู่ปีที่ 30 ซึ่งสามารถขับเคลื่อนธุรกิจมาอย่างมั่นคงและยั่งยืน วันนี้ ‘PPS GROUP’ ยังพร้อมรุกธุรกิจไปข้างหน้า โดยได้ประกาศแผนธุรกิจระยะ 5 ปี พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อวางรากฐานเติบโตอย่างมั่นคง อีกทั้งยังพร้อมแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ป้อนรายได้ให้บริษัทอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ทั้งนี้ นายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงวิสัยทัศน์และแผนการพัฒนาองค์กรในอนาคตในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของบริษัท ว่า PPS GROUP ได้มีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ โดยในระยะ 5 ปีต่อไปนี้ จะมีการขยายงานสู่ธุรกิจใหม่ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักด้านวิศวกรที่ปรึกษาบริหารงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายให้ PPS มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และย้ายเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2565
โดยตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้และกำไรที่เติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการถือเป็นรายได้หลักของบริษัท ซึ่งมีความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว ทั้งเรื่องของความล่าช้าในการเร่งผลักดันโครงการ และความสามารถในการหางานใหม่มีจำกัด บริษัทจึงเล็งเห็นว่า การขยายธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะด้านธุรกิจด้านการบริหารจัดการอาคารและอสังหาริมทรัพย์ จะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
[caption id="attachment_228893" align="aligncenter" width="335"]
“หลักการที่ยึดถือมาโดยตลอด คือ ยั่งยืน ทำอย่างต่อเนื่อง เน้นสร้างคน สร้างงาน สร้างสรรค์นวัตกรรม เราไม่ต้องการให้หุ้นปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อยากให้เป็นตำนานมากกว่า ดังนั้น ในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้ จึงเตรียมศึกษาการขยายธุรกิจใหม่ พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีรายได้จากธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้น สามารถส่งเสริมให้บริษัทมีรายได้เติบโตในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโต 25% ต่อเนื่องทุกปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ในปี 2565 บริษัทจะสามารถทำรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท”
Q | มีความคืบหน้าธุรกิจใหม่อย่างไรบ้าง?
สำหรับธุรกิจใหม่ที่เริ่มดำเนินงานไปแล้ว โดยจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บริษัท สะพัฒน์ โปรเจค จำกัด (PPS) ถือหุ้นในสัดส่วน 60% เพื่อประกอบธุรกิจด้านการบริหารจัดการอาคารและอสังหาริมทรัพย์ให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันเป็นระบบที่มีความจำเป็นและมีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีการเจรจากับลูกค้าทั้งหมด 4 โครงการ คาดว่า จะเซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะดำเนินงานและรับรู้รายได้ภายในช่วงต้นปี 2561 เป็นต้นไป
สำหรับผลงานแรกของบริษัท คือ การสร้าง ‘โรงแรมแกรนด์ไชน่า ย่านเยาวราช’ พร้อมกับการก่อสร้าง ‘เทสโก้ โลตัส’ สาขาแรกที่พิษณุโลก มีไซต์งานแล้วกว่า 360 แห่ง ได้รับงานรถไฟฟ้า MRT จนสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในวันนี้ ดังนั้น ภาพรวมธุรกิจในปัจจุบัน PPS จึงมีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณงานในมือ (Backlog) ของบริษัท อยู่ที่ 431 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2563 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน คาดว่า รายได้รวมของบริษัทปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 20% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 15%
“ภาพรวมโครงการก่อสร้างของภาครัฐและเอกชน คาดว่า จะทยอยปรับตัวดีขึ้น โดยในส่วนของงานเมกะโปรเจ็กต์ ภาครัฐน่าจะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานรถไฟฟ้า, งานรถไฟทางคู่, งานรถไฟความเร็วสูง ฯลฯ มูลค่ารวม 1.4-1.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในการเข้าประมูลงานรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่า ในปี 2561 จะเป็นปีที่ดีของบริษัท จากธุรกิจหลักที่ได้รับงานอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจใหม่ที่จะรับรู้รายได้ในปีหน้า”
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,312 วันที่ 9-11 พ.ย. 2560 หน้า 31
