PYLON สยายปีกลุยธุรกิจเสาเข็มเจาะต่างประเทศ

06 มิ.ย. 2560 | 12:53 น.
PYLON เตรียมนำธุรกิจเสาเข็มเจาะรุกตลาดต่างประเทศ ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากปี 60 เติบโตต่อเนื่อง จากงานก่อสร้างรถไฟฟ้า และการลงทุนภาครัฐ รวมถึงงานลงทุนภาคเอกชนเช่นกัน โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์

ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ มุ่งเป้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสั่งสมประสบการณ์ รองรับการเติบโตในอีก 5-10 ปีข้างหน้า โดยในเบื้องต้นการออกไปรับงานในต่างประเทศ บริษัทจะไม่ออกไปเพียงลำพัง เพราะมีความเสี่ยง โดยจะใช้วิธีการออกไปพร้อมกับผู้ประกอบการรับเหมาขนาดใหญ่ ที่มีงานในต่างประเทศ

“ด้วยศักยภาพบริษัทในปัจจุบันมีความพร้อมจะรุกธุรกิจในต่างประเทศ โดยเน้นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างประสบการณ์ และเป็นการยกระดับทีมงาน บริษัทฯจะไม่ออกไปเพียงลำพัง เพราะจะมีความเสี่ยงสูง แต่จะออกไปพร้อมกับผู้ประกอบการรับเหมารายใหญ่ คาดว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจน”ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีชุดเสาเข็มเจาะ 21-22 ชุด กำลังการผลิตที่มีนับว่าเพียงพอต่อการไปรับงานในต่างประเทศ และมีความพร้อมในการลงทุนเสาเข็มเจาะเพิ่ม ด้วยเงินสดในมือที่มีอยู่สูงถึง 200-300 ล้านบาท และไม่มีหนี้ ทำให้มีศักยภาพในการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม

1481166946_89-1 ภาพรวมของอุตสาหกรรมฐานรากในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รับผลดีจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีความมั่นใจว่าภาครัฐจะพยายามผลักดันโครงการลงทุนต่างๆให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 60 เป็นต้นไป เชื่อมั่นว่า PYLON จะได้รับอานิสงส์จากโครงการลงทุนก่อสร้างของทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายวางแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ในเชิงรุกมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป ทำให้จะเริ่มเห็นงานก่อสร้างตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม เหลือง และชมพู คาดว่าจะมีความคืบหน้าก่อสร้างได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยรถไฟฟ้าสายสีส้มมีแผนจะเริ่มลงเสาเข็มในเดือนมิ.ย.60

ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 300-400 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 56.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.88 ล้านบาท หรือ 18.81% โดยบริษัทฯมีรายได้จากการรับจ้างงานก่อสร้าง 254.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 9.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.82% จากปีก่อนที่มีรายได้ 244.74 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนจากการรับจ้างเท่ากับ 175.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งเท่ากับ 175.34 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 1.07 ล้านบาท และต้นทุนการทางการเงินลดลง 0.15 ล้านบาทจากปีก่อน