‘เจ.ดี.พูลส์’รุกตลาดเซอร์วิส เฟ้นกลยุทธ์เพิ่มยอดขายลูกค้าใหม่ย่านอีอีซี
เจ.ดี.พูลส์ดัน 27 โชว์รูมปั่นรายได้ให้ทะลุ 800 ล้านอัพ ภาคใต้ยังสดใส ภาคตะวันออกเจาะชลบุรีระยองและตราดเพิ่มยอดขาย แยกการรุกแบรนด์ PoolPro&Lab ให้บริการบำรุงรักษาครบวงจรชัดเจนแล้ว เจาะพื้นที่หาดใหญ่, นครศรีธรรมราช ยํ้า!!!เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสระว่ายนํ้าให้ได้มาตรฐานสูงยิ่งขึ้น
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดชประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทเจ.ดี.พูลส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ายังคงเดินหน้ารุกสร้างยอดขายและรายได้กับทั้ง 20 สาขาแฟรนไชส์รับสร้างสระว่ายนํ้าและอุปกรณ์ส่วนประกอบต่างๆที่เกี่ยวข้องจากปัจจุบันมีสาขาของบริษัทจำนวน 5 สาขาและของแฟรนไชซีอีก 15 สาขาโดยปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้ 800 ล้านบาท พบว่ายอดขายเติบโตปีละ 10-20% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 800 ล้านบาท
[caption id="attachment_157954" align="aligncenter" width="503"]
‘เจ.ดี.พูลส์’รุกตลาดเซอร์วิส เฟ้นกลยุทธ์เพิ่มยอดขายลูกค้าใหม่ย่านอีอีซี[/caption]
โดยปีนี้จะไม่เน้นการขยายสาขามากนักแต่จะเน้นยอดขายและนำสินค้าใหม่ออกมาป้อนตลาดเพิ่มมากขึ้นซึ่งให้อำนาจการตัดสินใจรุกตลาดในแต่ละพื้นที่แก่แฟรนไชซีอย่างเต็มที่พร้อมกับการเร่งสร้างยอดขายให้กับบริษัทในเครือคือ Pool Pro&Lab ที่ให้บริการ สินค้าเคมีและระบบซอฟต์แวร์ต่างๆตลอดจนให้บริการอะไหล่ต่างๆ แยกส่วนออกไปจากบริษัทแม่เจ.ดี.พูลส์อย่างชัดเจน โดยยังจะให้บริการทุกยี่ห้อไม่จำกัดเฉพาะสระว่ายนํ้าของเจ.ดี.พูลส์เท่านั้นทั้งนี้เพื่อยกระดับมาตรฐานสระว่ายนํ้าให้สูงยิ่งขึ้น
[caption id="attachment_157953" align="aligncenter" width="503"]
‘เจ.ดี.พูลส์’รุกตลาดเซอร์วิส เฟ้นกลยุทธ์เพิ่มยอดขายลูกค้าใหม่ย่านอีอีซี[/caption]
“ปัจจุบัน Pool Pro&Lab สามารถขยายได้มากถึง 7 โชว์รูมอีกทั้งยังจะขยายสาขาต่อเนื่องทุกปีเพื่อรุกตลาดด้านให้บริการโดยจะยังเน้นโซนภาคใต้ที่เติบโตไปกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีทั้งสาขาหาดใหญ่และนครศรีธรรมราชจากปัจจุบันมีแล้ว 5 สาขา ส่วนภาคเหนือเชียงใหม่, เชียงราย ภาคใต้มีสมุย ภูเก็ต และภาคกลางที่กรุงเทพฯ ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและต่อเนื่องด้านยอดขายส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมาและอุบลราชธานี ยังรักษายอดขายที่ดีต่อเนื่องด้วยเช่นกันโดยสระว่ายนํ้าเจ.ดี.พูลส์ยังเน้นเกาะกระแสไปตามแนวโน้มการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ส่วนบริษัท Pool Pro&Lab เจาะกลุ่มสถาปนิกโรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียนกลุ่มผู้รับเหมาหลักที่เป็นตลาดใหม่และเชื่อว่าจะเติบโตได้แน่โดยเฉพาะตลาดด้านสุขภาพ”
ในส่วนการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกนั้นยังเร่งระดับการให้บริการสาขาชลบุรี ระยอง และตราด ให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการพัฒนาสินค้าและบริการที่ดีพร้อมกับการรุกสู่กลุ่มลูกค้าใหม่จึงเป็นกลยุทธ์รุกตลาดในปีนี้
[caption id="attachment_157956" align="aligncenter" width="347"]
ธนูศักดิ์ พึ่งเดชประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทเจ.ดี.พูลส์ จำกัด[/caption]
“ยังคงเน้นการรุกตลาดทั้งรับบริหารโครงการของภาครัฐและงานภาคเอกชนซึ่งงานภาครัฐจะเน้นด้านการซ่อมบำรุงหรือปรับปรุงมากกว่าโดยเฉพาะสระขนาดใหญ่ อีกทั้งยังจะรุกสระขนาดเล็กมากขึ้นประกอบกับรัฐบาลไดผ้ ลกั ดันงบประมาณลงไปยังท้องถิ่นมากขึ้นจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจตามไปด้วยและเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาเด็กจมนํ้าได้อีกทางหนึ่งด้วยซึ่งเจ.ดี.พูลส์ดีไซน์รูปแบบและขนาดของสระสำหรับเด็กว่ายนํ้ารองรับไว้แล้ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,268 วันที่ 8 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดชประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทเจ.ดี.พูลส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่ายังคงเดินหน้ารุกสร้างยอดขายและรายได้กับทั้ง 20 สาขาแฟรนไชส์รับสร้างสระว่ายนํ้าและอุปกรณ์ส่วนประกอบต่างๆที่เกี่ยวข้องจากปัจจุบันมีสาขาของบริษัทจำนวน 5 สาขาและของแฟรนไชซีอีก 15 สาขาโดยปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้ 800 ล้านบาท พบว่ายอดขายเติบโตปีละ 10-20% ส่วนในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 800 ล้านบาท
[caption id="attachment_157954" align="aligncenter" width="503"]
โดยปีนี้จะไม่เน้นการขยายสาขามากนักแต่จะเน้นยอดขายและนำสินค้าใหม่ออกมาป้อนตลาดเพิ่มมากขึ้นซึ่งให้อำนาจการตัดสินใจรุกตลาดในแต่ละพื้นที่แก่แฟรนไชซีอย่างเต็มที่พร้อมกับการเร่งสร้างยอดขายให้กับบริษัทในเครือคือ Pool Pro&Lab ที่ให้บริการ สินค้าเคมีและระบบซอฟต์แวร์ต่างๆตลอดจนให้บริการอะไหล่ต่างๆ แยกส่วนออกไปจากบริษัทแม่เจ.ดี.พูลส์อย่างชัดเจน โดยยังจะให้บริการทุกยี่ห้อไม่จำกัดเฉพาะสระว่ายนํ้าของเจ.ดี.พูลส์เท่านั้นทั้งนี้เพื่อยกระดับมาตรฐานสระว่ายนํ้าให้สูงยิ่งขึ้น
[caption id="attachment_157953" align="aligncenter" width="503"]
“ปัจจุบัน Pool Pro&Lab สามารถขยายได้มากถึง 7 โชว์รูมอีกทั้งยังจะขยายสาขาต่อเนื่องทุกปีเพื่อรุกตลาดด้านให้บริการโดยจะยังเน้นโซนภาคใต้ที่เติบโตไปกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีทั้งสาขาหาดใหญ่และนครศรีธรรมราชจากปัจจุบันมีแล้ว 5 สาขา ส่วนภาคเหนือเชียงใหม่, เชียงราย ภาคใต้มีสมุย ภูเก็ต และภาคกลางที่กรุงเทพฯ ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและต่อเนื่องด้านยอดขายส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมาและอุบลราชธานี ยังรักษายอดขายที่ดีต่อเนื่องด้วยเช่นกันโดยสระว่ายนํ้าเจ.ดี.พูลส์ยังเน้นเกาะกระแสไปตามแนวโน้มการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ส่วนบริษัท Pool Pro&Lab เจาะกลุ่มสถาปนิกโรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียนกลุ่มผู้รับเหมาหลักที่เป็นตลาดใหม่และเชื่อว่าจะเติบโตได้แน่โดยเฉพาะตลาดด้านสุขภาพ”
ในส่วนการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกนั้นยังเร่งระดับการให้บริการสาขาชลบุรี ระยอง และตราด ให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการพัฒนาสินค้าและบริการที่ดีพร้อมกับการรุกสู่กลุ่มลูกค้าใหม่จึงเป็นกลยุทธ์รุกตลาดในปีนี้
[caption id="attachment_157956" align="aligncenter" width="347"]
“ยังคงเน้นการรุกตลาดทั้งรับบริหารโครงการของภาครัฐและงานภาคเอกชนซึ่งงานภาครัฐจะเน้นด้านการซ่อมบำรุงหรือปรับปรุงมากกว่าโดยเฉพาะสระขนาดใหญ่ อีกทั้งยังจะรุกสระขนาดเล็กมากขึ้นประกอบกับรัฐบาลไดผ้ ลกั ดันงบประมาณลงไปยังท้องถิ่นมากขึ้นจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจตามไปด้วยและเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาเด็กจมนํ้าได้อีกทางหนึ่งด้วยซึ่งเจ.ดี.พูลส์ดีไซน์รูปแบบและขนาดของสระสำหรับเด็กว่ายนํ้ารองรับไว้แล้ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,268 วันที่ 8 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560