“ไทยไม่ทน”ยื่น 4 ข้อ จี้นายกฯ ลาออก เปิดทางเลือกคนใหม่

22 มิ.ย. 2564 | 04:58 น.

กลุ่ม “ไทยไม่ทน” ยื่น 4 ข้อเสนอต่อรัฐบาล จี้นายกฯ ลาออกทันที เปิดทางเลือกคนใหม่ ร่างรธน.ฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย

วันนี้ (22 มิ.ย.64) คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย  นำโดย  นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์  นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นายวีระ สมความคิดเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยมี นายสมภาศ นิลพันธุ์ สำนักนายกรัฐมนตรี รับหนังสือ 

นายวีระ กล่าวว่า เนื่องจากการประกาศชุมนุมของ “ไทยไม่ทน” คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2564 นี้ เพื่อรวมพลังแม่น้ำร้อยสายภาคประชาชนร่วมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการคอร์รัปชั่นอำนาจ บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว สร้างระบอบอำนาจนิยมและธุรกิจการเมือง ... สร้างระบบเศรษฐกิจผูกขาด บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ทำให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงไปทั่ว สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กพังทลายจนล้มเลิกกิจการ ประชาชนอดอยากยากแค้นแสนเข็ญ เนื่องจากเศรษฐกิจฝืดเคืองและคนตกงาน ละเมิดสิทธิมนุษยชน แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและเป็นภัยต่อความมั่นคงของสังคมมาตลอด 7 ปีที่ผ่านมานั้น 

                                            “ไทยไม่ทน”ยื่น 4 ข้อ จี้นายกฯ ลาออก เปิดทางเลือกคนใหม่

คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้จัดเวทีอภิปรายต่อสาธารณะครั้งแรกที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ในวันที่ 4 เมษายน 2564 และเดินสายชี้แจงปัญหาต่อสาธารณะในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด โดยการจัดเวทีปราศรัยไทยไม่ทนออนไลน์รายสัปดาห์ และตลอด 9 วัน 9 คืนในวันครบรอบ 7  ปีการรัฐประหาร และยื่นจดหมายเรียกร้องให้ทุกฝ่ายถอนตัวจากการเข้าร่วมรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อร่วมหาทางออกของชาติบ้านเมือง 

โดยมีการยื่นหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเห็นแก่ชาติและประชาชน ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ขอให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 

นอกจากนั้น ยังได้เคลื่อนไหวยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารบก ขอให้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เพื่อวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 รวมถึงผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผ่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ให้ลาออกจากวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เพื่อยุติการเป็นเสาค้ำยันระบอบประยุทธ์ ที่สืบทอดอำนาจปกครองบ้านเมืองโดยมิชอบจนบ้านเมืองล้มเหลวและเกิดวิกฤต

ต่อมาได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลโดยตรงในวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ขอให้รัฐบาลรับผิดชอบชดใช้ประชาชนจากการรวบอำนาจสร้างระบบเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาดประชารัฐ และทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองถึง 7 ด้านท่ามกลางการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจผูกขาดกินรวบประเทศไทย โดยเอื้อผลประโยชน์ให้มหาเศรษฐกิจ-เจ้าสัว และนักธุรกิจพลังงาน ปล่อยให้มีการผูกขาดกิจการสาธารณประโยชน์ขั้นพื้นฐานซึ่งขัดรัฐธรรมนูญการปกครอง กดขี่ขูดรีดประชาชนจนเกิดความเหลื่อมล้ำมหาศาล ทั้งยังอนุญาตให้ทุนต่างชาติเข้าครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินถาวรผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเช่าที่ดิน 99 ปีโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 

รวมถึงได้มีการการยื่นหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อบันทึกผลงานความล้มเหลวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 17 ประการ และเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายของบ้านเมือง โดยการลาออกจากตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทางออกเดียวที่ประเทศชาติจะชะลอการพบกับหายนะครั้งใหญ่ได้ จากความเห็นแก่ตัวและเมามัวลุ่มหลงอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่ประชาชนจะหมดความอดทนและออกมาขับไล่รัฐบาลเต็มบ้านเมือง...
จากมูลเหตุปัญหาและความเสียหายทั้งหมดจาก “ระบอบประยุทธ์”ข้างต้นนั้น เกินพอที่จะไม่อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำลายชาติบ้านเมืองอีกต่อไปแม้แต่วันเดียว คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย และเครือข่ายภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศจึงได้ประกาศร่วมกันชุมนุมทางการเมือง และมาชี้แจงมูลเหตุแห่งการประกาศชุมนุมขับไล่รัฐบาลในวันนี้

โดยคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย มีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้ 

1. ขอประกาศขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในทันที เพื่อให้รัฐสภาเลือกบุคคลอื่นที่มีความสามารถมากกว่ามาบริหารบ้านเมืองในสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้โดยเร็วที่สุดตามครรลองประชาธิปไตย 

2. พันธกิจของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผูกขาดและล้มเหลวในทันที ยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และฉีดวัคซีนฟรีทั่วประเทศตามความสมัครใจของประชาชน ฟื้นฟูชาติบ้านเมืองจากวิกฤตด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว 

3. ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยฉบับใหม่โดยประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด โดยให้เสร็จก่อนหมดวาระเพื่อการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตยและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายในสังคม

4. ให้มีการตั้งกรรมาธิการพิเศษในรัฐสภาเพื่อปรับปรุงสถาบันและองค์กรทางการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะการปฏิรูปกองทัพและตำรวจอย่างเป็นระบบเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงข้อเสนอการปรับปรุงสถาบันกษัตริย์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข