ฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช.สอบ“นายกฯ”ปล่อยโควิดลุกลามใหญ่

13 พ.ค. 2564 | 05:24 น.

ฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช.สอบเอาผิด “นายกฯ” ปมแก้โควิดล้มเหลว  ปล่อย 3 คลัสเตอร์ใหญ่ลาม ไม่ขวนขวายเร่งหาวัคซีน ปล่อยประชาชนเจ็บป่วย

วันนี้(13 พ.ค.64) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ประธานอนุกรรมการนโยบายสาธารณสุข พรรคเพื่อไทย, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ  พร้อมด้วยแกนนำ และ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าชื่อร่วมกันยื่นหนังสือต่อประธาน ป.ป.ช.

โดยขอให้ไต่สวนและมีความเห็น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีพฤติการณ์ไม่สุจริตส่อไปในทางทุจริต ไม่ถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และรู้เห็นหรือยินยอมให้ข้าราชการในปกครองใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 26, 47,53, 55,62,164,234 และมาตรา 235 , พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 , พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 , พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 , พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (1), (2) และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เนื้อหาคำร้องยังระบุว่า ในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 3 รอบที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์จงใจไม่ดูแลให้ปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้เกิดการระบาดของโรค ตั้งแต่การระบาดรอบแรก ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการจัดแข่งขันชกมวยของกองทัพบกที่สนามมวยลุมพินี
ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุขจนเกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ (Super Spreader) ในระบาดรอบสอง ได้เกิดกลุ่มก้อนใหญ่การแพร่ระบาด (Cluster) ที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร เพราะรัฐบาลปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจเข้มงวดกับปัญหาแรงงานต่างด้าวและการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย 

                                         ฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช.สอบ“นายกฯ”ปล่อยโควิดลุกลามใหญ่

ส่วนการระบาดรอบ 3 ซึ่งเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์อังกฤษจากแหล่งท่องเที่ยวย่านทองหล่อซึ่ งประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรครัฐบาล ได้ไปใช้บริการแล้วกลายเป็นผู้ติดเชื้อโควิดในเวลาต่อมา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับจงใจไม่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย ไม่ดำเนินคดีและไม่ลงโทษรัฐมนตรี ที่ไปใช้บริการสถานบริการดังกล่าว ทั้งที่เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่รัฐมนตรีในรัฐบาลอีกคนหนึ่งจัดงานในช่วงสงกรานต์และมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จนเกิดการแพร่ระบาดของโรค มีผู้ติดเชื้อหลายรายและมีผู้เสียชีวิต ถือเป็นการจงใจไม่ดูแลให้ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายไม่ดำเนินคดี และไม่ลงโทษนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  ที่เป็นรัฐมนตรีร่วมคณะ ที่กระทำผิดฝ่าฝืน พรก. ฉุกเฉิน

 

รัฐบาลกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายสร้างความล้มเหลวระบบป้องกันโรคระบาด ล้มเหลวระบบให้การรักษาพยาบาล และล้มเหลวระบบช่วยเหลือการเยียวยา โดยไม่ได้ดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ไม่ดำเนินการให้มีการควบคุมโรค การป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ จงใจปฏิเสธความช่วยเหลือจากโครงการโคแวกซ์(COVAX) ของหน่วยงานขององค์กรอนามัยโลกที่จัดวัคซีนให้ประเทศต่างๆ 180 ประเทศ 
รวมถึงปฏิเสธความช่วยเหลือจากภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน กลับปล่อยให้ประชาชนจำนวนมากต้องเจ็บป่วย นอนรอความตาย เพราะขาดโอกาสในการเข้าถึงวัคซีน

อีกทั้งในการจัดหาวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ใช้อำนาจรักษาการตามกฎหมายของ รมว.สาธารณสุข ได้จงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ละเลยไม่ขวนขวายจัดหาวัคซีน ที่มีความสำคัญและจําเป็นอย่างรวดเร็ว หลากหลายและเพียงพอให้ประชาชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจ สังคมและทำให้ประชาชนต้องมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างทุกข์ทรมาน