”แนะ“เสรีพิศุทธ์”ว่างมากลงพื้นที่ช่วยคนติดโควิดดีกว่าเล่นการเมือง

08 พ.ค. 2564 | 07:39 น.

“แรมโบ้” ซัด “เสรีพิศุทธ์”ปมจะลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักนายกฯชี้นายกฯไม่ผิด แนะไม่มีอะไรทำว่างงานมากลงพื้นที่ช่วยนประชาชนในช่วงวิกฤตโควิดดีกว่า

วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป.ป.ช. จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านพักนายกฯ  โดยระบุว่าเรื่องนี้ได้จบไปแล้ว ทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้นายกฯไม่ผิดกรณีอยู่บ้านพักรับรอง อีกทั้งกองทัพบกได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว จึงไม่เข้าใจเหตุใดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงไม่หยุดเรื่องนี้ 

ทั้งนี้การที่จะเดินทางไปยังบ้านพักนายกฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ควรที่จะศึกษาให้เข้าใจด้วย ไม่ใช่แค่กรรมาธิการจะทำหนังสือถึงกองทัพบกเพื่อขออนุญาตให้กรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเท่านั้น  แต่การเดินทางเข้าไปนั้นจะต้องใช้ทางผ่านเข้า-ออก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานและเป็นพื้นที่ปิด ต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอผ่านทาง

 นายเสกสกลยังมองว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องการหาประเด็นที่จะนำมาโจมตีนายกฯมากกว่า เพราะคงหาประเด็นอื่นมาโจมตีนายกฯไม่ได้ พยายามที่จะใช้ตำแหน่งทางกรรมาธิการมาทำเพื่ออคติส่วนตัว เลยหยิบประเด็นนี้มาแทนทั้งที่เรื่องนี้ถือว่าจบไปแล้ว จะมาอาศัยหรือคิดว่าตัวเองเป็นประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.จะทำอะไรหรือรังแกใครก็ได้ตามอำเภอใจตัวเองอย่างนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ใช้ได้หรือไม่ การใช้เทคนิคเพื่อจะมาตีกินทางการเมืองในขณะที่บ้านเมืองอยู่ในช่วงแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนวิกฤตโควิดใช้ไม่ได้จริงๆ ซึ่งตนเองยืนยันว่าหากคิดเช่นนั้นไม่สำเร็จอย่างแน่นอน 
 

"หากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่มีอะไรทำว่างงานมากตนเองขอแนะนำให้เอาเวลาไปช่วยประชาชน ลงพื้นที่บ้าง เพราะอาจจะได้คะแนนดีกว่าเอาเวลาไปโจมตีคนที่ทุ่มเททำงาน แก้ไขปัญหาเพื่อบ้านเมือง ซึ่งหากยังทำแบบนี้อีกคงไม่เหลือ ส.ส.ในพรรคเสรีรวมไทย พรรคคงจบเห่เหลือศูนย์ แน่นอน เพราะหัวหน้าพรรค เอาเวลามาเล่นแต่การเมืองแบบอคติ เดี๋ยวทะเลาะกับส.ส.ในสภา เดี๋ยวทะเลาะในกรรมาธิการฯมีภาพลักษณ์ที่เสียหายในสายตาประชาชน ทั้งที่เป็นผู้อาวุโสแล้วควรประพฤติปฎิบัติตนให้เหมาะสมเป็นเยี่ยงอย่างนักการเมืองที่ดี และควรคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนประชาชนในยามวิกฤตนี้ โดยลงพื้นที่หาหนทางดูแลบริจาคสิ่งของช่วยเหลือประชาชน สอบถามทุกข์สุขประชาชน เหมือนกับที่ส.ส.ท่านอื่นๆทำกัน แต่ถ้ายังมัวแต่เล่นการเมืองเช่นนี้ ประชาชนจะได้จดชื่อหัวหน้าพรรคและชื่อพรรคนี้ไว้ให้ขึ้นใจ เลือกตั้งเมื่อไรจะได้สอนบทเรียนที่เจ็บปวดให้กับนักการเมืองและพรรคการเมืองประเภทนี้ให้เข็ดหลาบสาปสูญไปเลย"