ผู้ตรวจการแผ่นดินหาทางออก“งบ อปท.”เบิกจ่ายไม่ทันตามปีงบประมาณ

19 เม.ย. 2564 | 08:26 น.

ผู้ตรวจการแผ่นดินหาทางออก "งบ อปท."เบิกจ่ายไม่ทันตามปีงบประมาณ ประสาน “มท.-สำนักงบฯ” ช่วยกลั่นกรองโครงการ ชี้พรบ.งบฯ ปี 61 มาตรา 43 และ 55 ไร้ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 

วันนี้(19 เม.ย.64) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  พร้อมด้วย นายอดิศร ร่มสนธิ์ รองเลขาธิการ และคณะ ร่วมประชุมกับกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ผ่านระบบ Zoom หลัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ร้องเรียนกรณีมีปัญหาและข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่อันเกิดจากพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561

 พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า สำนักงานเทศบาลนครยะลาได้ร้องเรียนกรมบัญชีกลาง กรณีให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณที่ได้มีการกันเงินและขอขยายเวลาเบิกเงินจากคลังไว้ก่อน พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณ ปี พ.ศ. 2555 - 2562  ที่ได้ขอกันไว้ได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด  ทำให้งบประมาณนั้นต้องถูกพับไปโดยผลของกฎหมาย

หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความจำเป็นต้องจัดหางบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายให้แก่คู่สัญญาที่ได้เข้าทำสัญญาโดยสุจริตไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการบริหารสัญญา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นก็อาจพิจารณาโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่าย หรือมีความจำเป็นน้อยกว่าไปตั้งเป็นรายการใหม่ เพื่อเบิกจ่ายให้แก่คู่สัญญา

หากเงินงบประมาณมีไม่เพียงพอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน  อาจขอทำความตกลงกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อนำเงินสะสมไปใช้ในกรณีดังกล่าว  ซึ่งสำนักงานเทศบาลนครยะลาเห็นว่า พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 43 และมาตรา 55 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย  เป็นการสร้างปัญหาความอิสระในการบริหาร การจัดทำบริการสาธารณะ ไม่ส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

   ผู้ตรวจการแผ่นดินหาทางออก“งบ อปท.”เบิกจ่ายไม่ทันตามปีงบประมาณ              

          ผู้ตรวจการแผ่นดินหาทางออก“งบ อปท.”เบิกจ่ายไม่ทันตามปีงบประมาณ

 พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มีเจตนารมณ์เพื่อให้การบริหารจัดการการใช้งบประมาณของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกหน่วยงานของรัฐที่ใช้งบประมาณแผ่นดินต้องมีวินัยการเงิน-การคลัง รู้จักวางแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างถูกต้อง มีระบบ และเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานต้องปรับวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับนี้  ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการแจ้งเตือนให้หน่วยงานทราบก่อนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563  โดยคาดว่ายังมี อปท.อื่นๆ กว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ ที่อาจจะประสบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ด้วย  ซึ่งจากการหารือในวันนี้เพื่อให้เกิดแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงระบบ

ผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงได้มีคำวินิจฉัย ดังนี้  คือ พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 43 และมาตรา 55 ไม่มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ  สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทัน และเปลี่ยนแปลงแก้ไขงบประมาณไม่ได้  รวมทั้งไม่มีเงินสะสมเพียงพอที่จะนำไปจ่ายให้กับคู่สัญญา มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นร่วมกับกระทรวงมหาดไทย พิจารณากลั่นกรองโครงการของ อปท. ที่เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าว  โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามขอใช้งบกลางไปยังสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง  เพื่อจัดสรรงบประมาณให้ อปท. ดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นี้

ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดในการติดตาม กำกับดูแล การบริหารจัดการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดของตนเอง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจ  ให้คำแนะนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำร่างขอบเขตงาน  ตลอดจนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นการล่วงหน้า  เพื่อที่ว่าเมื่องบประมาณของปีใหม่ได้รับการจัดสรรมาแล้วจะได้ลงนามในสัญญาได้ และใช้จ่ายงบประมาณได้ทันตามกำหนดเวลา