วันนี้(7 เม.ย.64) ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อท.51/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 24/2563 ระหว่าง นายมีศิลป์ ชินภักดี โจทก์ กับนายกิตติ บุญเชิด จำเลย กับพวก รวม 14 คน จำเลยปฏิบัติหน้าที่กรรมการประเมินศักยภาพผู้ขอย้าย กรรมการกลั่นกรองการย้าย และ อ.ก.ค.ศ. สพม.25 ขอนแก่น กรณีโจทก์ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน เมื่อปี 2558
คดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 พิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี นายกิตติ บุญเชิด, พิพากษาจำคุก 3 ปี นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล นายวีระเดช ชาตา, นายบัลลังก์ อรรณนพพร , นายสุรินทร์ หล้าหา นายลิขิต เพชรผล ว่าที่ เรืออากาศตรี เจริญ สุขทรัพย์ พ.ต.อ.เสถียร ชัยสงคราม และนายมาโนช ฟั่นฉิม พิพากษาจำคุก 2 ปี นางกรรณิกา ศรีสัตย์รสนา นายภูวดล หมื่นสีพรหม นายสุนันท์ คำจันทร์ และนายสมเกียรติ ศรีโนนชัย พิพากษายกฟ้อง นายยุทธศาสตร์ กงเพชร
ต่อมาจำเลยได้อุทธรณ์คำพิพากษา และ ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 เป็นดังนี้
จำคุก 1 ปี 6 เดือน นายกิตติ บุญเชิด นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล นายวีระเดช ชาตา นายบัลลังก์ อรรณนพพร นายสุรินทร์ หล้าหา นายลิขิต เพชรผล ว่าที่เรืออากาศตรี เจริญ สุขทรัพย์ และ พ.ต.อ.เสถียร ชัยสงคราม
จำคุก 1 ปี นางกรรณิกา ศรีสัตย์รสนา นายภูวตล หมื่นสีพรหม นายสุนันท์ คำจันทร์ นายสมเกียรติ ศรีโนนชัย และนายมาโนช ฝั้นฉิม โดยไม่รอลงอาญา
สำหรับคดีนี้จำเลยทั้ง 14 คน ถูกฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 83 มาตรา 91 และมาตรา 162 (1) (4) จัดทำ/รับรอง เอกสารอันเป็นเท็จ กรณีโจทก์คือ นายมีศิลป์ ชินภักดี อดีต ผอ.โรงเรียนผดุงนารี จ.มหาสารคาม ปัจจุบันเกษียณราชการแล้ว ได้ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนเมื่อปี 2558
โดยคำฟ้องระบุว่า นายกิตติ บุญเชิด จำเลย อดีตผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 25 (ขอนแก่น) จำเลย และพวก ซึ่งมี นายบัลลังก์ อรรณนพพร ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 10 จ.ขอนแก่น เป็น 1 ในนั้นด้วย ใช้อำนาจในการประเมินการแต่งตั้ง ผอ.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(กคศ.) แต่ได้ให้นายยุทธศาสตร์ กงเพชร ซึ่งมีคุณสมบัติด้อยกว่านายมีศิลป์ ในขณะนั้น ดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน โจทก์จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ
ด้านนายมีศิลป์ ชินภักดี ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว เปิดเผยว่า ตนเองพึงพอใจสำหรับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ แม้ว่าคำสั่งจำคุกจะน้อยกว่าศาลชั้นต้น แต่ก็ไม่รอลงอาญา ถือว่าตนเองได้รับความยุติธรรมแล้ว ทราบว่าทางจำเลยได้มีการยื่นฎีกา ทั้งนี้ตนก็จะใช้สิทธิคู่ความยื่นคัดค้านต่อไป