“วัชระ”ยื่นกมธ.สอบ“น้องธนาธร”หวังฮุบที่ดินทรัพย์สินฯ

09 ธ.ค. 2563 | 05:47 น.

“วัชระ”ไม่ปล่อย"สกุลธร"ลอยนวล ยื่นประธานกมธ.กฎหมาย สภาฯ สอบจ่ายใต้โต๊ะ 20 ล้าน หวังฮุบที่ดินทรัพย์สินฯ


วันนี้ (9 ธ.ค.63) ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือกับ นายสิระ เจนจาคะ  ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สอบสวนกรณี นายสกุลธร  จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เงิน 20 ล้านบาทกับ นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์(ชื่อเดิม) และ นายสุรกิจ  ตั้งวิทูวนิช  เพื่อให้ได้สิทธิเป็นผู้ลงทุนในที่ดินบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย(ชิดลม) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ให้บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้สิทธิเช่าที่ดินระยะยาวโดยไม่ต้องผ่านการประมูลแข่งขันตามขั้นตอนปกติ 


โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 คดีหมายเลขดำที่ อท 76 / 2562 คดีหมายเลขแดงที่ อท  228 / 2562  ว่านายสกุลธรให้เงิน 20 ล้านบาทแก่นายประสิทธิ์และนายสุรกิจเป็นการตอบแทนในการร่วมกันไปติดต่อประสานงานและนำเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้รองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐโดยวิธีอันทุจริตและผิดกฎหมาย เพื่อจูงใจให้จัดสรรที่ดินดังกล่าว โดยศาลลงโทษจำคุกคนละ 3 ปีไปแล้ว 


และด้วยเหตุตามคำพิพากษาดังกล่าว ประชาชนสงสัยว่า เหตุใด? พนักงานสอบสวน และอัยการจึงไม่มีการสั่งฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะอาจจะซ้ำรอยกรณีคดี “บอส กระทิงแดง” ได้ จึงขอให้กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รีบนำเรื่องนี้บรรจุเข้าพิจารณาเพื่อค้นหาความยุติธรรมต่อไปว่าเหตุใด ตำรวจและอัยการ จึงไม่ฟ้องนายสกุลธร ทั้งที่มีคำพิพากษาชัดเจนเช่นนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักอัยการสูงสุด จะดำเนินการทางกฎหมายต่อนายสกุลธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือไม่ อย่างไร และเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาหาข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการต่อไป 
 

สำหรับบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เดิมจดทะเบียนแรกเริ่มชื่อ บริษัท อีส เทิร์น ฮิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่ คลับ จำกัด  ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไทยซัมมิท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ ,นายสกุลธร  จึงรุ่งเรืองกิจ และบุคคลอื่นถือหุ้นร่วมกัน ขณะกระทำผิดตามคำพิพากษานี้คือ มีนาคม 2560 – 18 กันยายน 2560  มีผู้ถือหุ้นลำดับที่ 1. นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ 6.นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ


นายวัชระ กล่าวด้วยว่า หลังจากยื่นเรื่องต่อตำรวจ และอัยการ ขณะนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับจากหน่วยงานดังกล่าวแต่อย่างใด เมื่อเห็นความเหลื่อมล้ำ ทำไมลูกคนรวยมีอำนาจ ไม่ถูกดำเนินคดี หลุดแทบทุกคดี เช่นกรณีของบอส กระทิงแดง นายพานทองแท้ ชินวัตร และบุตรหลานของผู้มีอิทธิพล ทำไมตำรวจ อัยการทำงานแบบนี้ มีการวิ่งตำรวจ อัยการหรือไม่ สังคมไทยรู้อยู่ จึงต้องมีการปฏิรูปหน่วยงานเหล่านี้ด้วย 


เมื่อถามว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองหรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองเลยแม้แต่น้อย เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ต้องการค้นหาความจริง และตนเคลื่อนไหวเรื่องเหล่านี้มาตลอด 

 

ด้านนายสิระ กล่าวว่า คาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ. ได้ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ โดยจะเชิญฝั่งของ นายสกุลธร มาให้ข้อมูลด้วย จะสอบถามว่า รอดได้อย่างไร ใช้วิธีไหนถึงไม่ผิด 
ส่วนนายธนาธร จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบก่อน ถ้าทำในนามบริษัท ตนก็จะเชิญทั้งตระกูล ก็ขอให้ครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจสบายใจได้ในเรื่องนี้ เพราะมี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยู่ใน กมธ.ด้วย ถือว่าเป็นลูกน้องเก่าของนายธนาธร เราจะหาความยุติธรรม ตรวจสอบเรื่องนี้ ทั้งด้านกฎหมาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย 

 

หากพบว่ามีการละเว้น ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าถามว่ายื่นเรื่องช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ ถ้าพบว่าผิด จะยื่นเวลาใดก็ได้ แต่ต้องดูเนื้อหา กระบวนการมีปัญหาหรือไม่ คนรวยไม่ต้องติดคุก คนจนติดคุกหรือไม่ 


“ถ้านายธนาธร หาเสียงเรียกร้องในเรื่องความโปร่งใส เสมอภาค วันนี้ก็ต้องให้ความร่วมมือผม น้องชายเหลื่อมล้ำมั้ย มีตังค์ใช่มั้ย ทำยังไงหลุดคดี ไม่ติดคุก” นายสิระ กล่าว