บช.น.ส่ง 3 กองร้อยดูความปลอดภัยรอบศาลรธน.

02 ธ.ค. 2563 | 01:29 น.

บช.น.วางกำลัง 3 กองร้อยดูความปลอดภัยรอบศาลรธน.พร้อมส่งกำลังคุ้มกันตุลาการศาลฯ วอนประชาชนติดตามผ่านสื่อหรือที่บ้าน เตือนมาชุมนุมเสี่ยงผิดกฏหมายอาญาและละเมิดศาล

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (2ธ.ค.63) เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย "คดีบ้านพักทหาร"ของ พลเอกประยุุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยในช่วงเช้าวันนี้ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไปนายกรัฐมนตรี มีภารกิจในการเดินทางไปตรวจราชการ ณ จังหวัดสมุทรสงคราม

 

ส่วนบรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญ  สำนักงาน ฯได้จัดเตรียมสถานที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (1 ธ.ค. ) เพื่อรองรับการนัดแถลงด้วยวาจาและอ่านคำวินิจฉัย ในเวลา15.00 น.ในวันนี้  ตามคำร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา184 วรรคหนึ่ง(3)หรือไม่

 

กรณีใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่1มหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิตซึ่งเป็นบ้านพักของราชการทหารเป็นที่พักอาศัยของตนเองและครอบครัว ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเมื่อวันที่ 1ตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบันโดยไม่เสียค่าเช่าให้กับราชการทหาร  ทั้งที่เกษียณอายุราชการมาตั้งแต่ 30กันยายน 2557

 

อาจเข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ใดๆจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 184 (3) และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160(5)

 

ทั้งนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จัดเตรียมสถานที่โดยตั้งแผงเหล็กกำหนดทางเดินเข้า-ออก จุดรายงานตัวและแลกบัตรของผู้ร้องและผู้ถูกร้องรวมทั้งจุดรายงานข่าวของสื่อมวลชนโดยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องมาปฏิบัติงานในวันนี้

 

ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ผบช.น.มีความเป็นห่วงจึงสั่งให้ บก.น.2และสน.ทุ่งสองห้องที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ดูแลความเรียบร้อยโดย และได้มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันที่  1ธ.ค.โดยมาตรการรองรับผู้ชุมนุม จะทำตามความจำเป็นเท่านั้น การวางสิ่งกีดขวาง แบริเอ่อร์ก็จะใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อย้ำเตือนผู้ชุมนุมว่าระยะนี้ เป็นระยะที่ต้องห้าม ที่สำคัญสถานที่นี่ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตามกฎหมายแล้วห้ามชุมนุม เบื้องต้น ยังไม่มีการแจ้งขออนุญาตชุมนุมจากแกนนำกลุ่มราษฎรหรือกลุ่มใดๆ

 

“ไม่ควรจะชุมนุมในสถานที่ต้องห้ามหรือสถานที่ราชการ การอ่านคำวินิจฉัย ก็มีการถ่ายทอดผ่านสถานีโทรทัศน์ และโซเชียลมีเดีย ซึ่งประชาชนสามารถติดตามได้ที่บ้านอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญให้เกิดความเดือดร้อน หรือเกิดการทำผิดกฎหมายเพราะเป็นสถานที่ราชการมีเขตอำนาจศาล หากการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจเป็นการละเมิดอำนาจศาลได้เพราะการมาชุมนุมมีความผิดทั้งทางอาญาและการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งต้องดำเนินคดีทุกกรณี”พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวย้ำและว่า

 

ในการจัดเตรียมกำลังได้จัดเตรียมไว้อย่างเพียงพอจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และพื้นที่เบื้องต้นจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ผลัดละ 3 กองร้อย ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นกำลังของบกน.2และเสริมด้วยบชน.ซึ่งหวังว่าไม่มีเหตุความวุ่นวาย ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะมีการจัดม็อบมาชนกัน ถ้ามีมา ก็พร้อม จัดสถานที่แยกกัน เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกระทั่ง พร้อมได้จัดกำลังไปดูแลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่บ้านพัก และการเดินทางเข้าอออกศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดจนความพร้อมที่จะพาตุลาการไปในที่ที่ปลอดภัยได้หากมีเหตุชุลมุน ยังห่วงเรื่องปัญหาการจราจร เพราะถ้ามีผู้ชุมนุมมากจนต้องลงไปบริเวณถนนก็จะให้ส่งผลกระทบต่อการจราจร เพราะถนนแจ้งวัฒนะมีการสร้างรถไฟฟ้าจึงอาจทำให้รถติดมากขึ้น