“ประธานเนชั่น”ยันไม่เติมไฟขัดแย้ง-รับฟังความเห็นต่าง

29 ต.ค. 2563 | 12:07 น.

“ประธานเนชั่น”ขอบคุณม็อบชุมนุมฝั่งตรงข้ามตึกอินเตอร์ลิ้ง อย่างสงบ ระบุพร้อมรับฟังความเห็นต่าง ยอมรับได้ยินข้อกล่าวหาเนชั่นบิดเบือน


นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แถลงขอบคุณม็อบชุมนุมฝั่งตรงข้ามตึกอินเตอร์ลิ้งที่ชุนุมอย่างสงบ พร้อมรับฟังความเห็นต่าง ยอมรับว่าได้ยินข้อกล่าวหาเนชั่นบิดเบือน แต่ยังไม่เห็นหลักฐาน ถ้ามีอะไรผิดกฎหมายให้ใช้ช่องทางกฎหมายได้เลย หรือส่งหลักฐานมา ก็จะรับไปตรวจสอบ แต่ที่ผ่านมาไม่มี และจะไม่เติมไฟความขัดแย้ง


พร้อมย้ำอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เคารพความเห็นต่าง และได้ตรวจสอบทุจริตทุกรัฐบาล การทำหน้าที่นำเสนอความจริงอีกด้านอาจทำให้บางคนไม่พอใจ แต่ก็สามารถฟ้องร้องได้ถ้าคิดว่าไม่จริง ยืนยันว่าเนชั่นไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง


                                                          

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่บริเวณตรงข้ามด้านหน้าอาคารอินเตอร์ลิ้งค์ หรือที่ทำการเนชั่นทีวี บนถนนบางนาตราด กม.5 วันนี้ มีการนัดรวมตัวกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่เวลา 16:00 น. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันตรงข้ามอาคารอินเตอร์ลิงค์ก่อนที่จะมาปักหลักชุมนุมปราศรัยบริเวณด้านหน้าปั้มน้ำมัน ในส่วนของแกนนำวันนี้มีนายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ และแกนนำคนอื่น ๆ ทำหน้าที่สลับสับเปลี่ยนปราศรัยบนรถขยายเสียง ซึ่งมีลักษณะเป็นรถกระบะสีขาว มีลำโพง 2 ตัว


โดยเนื้อหาในการปราศรัยวันนี้ นอกเหนือจากการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออกและยุบสภาแล้ว ยังเรียกร้องจริยธรรมจรรยาบรรณในการทำหน้าที่สื่อมวลชนของเนชั่นทีวี 


ทั้งนี้จากการสอบถามกลุ่มแกนนำวันนี้ จะเป็นการทำกิจกรรมในการปราศรัยปักหลักอยู่ตรงข้ามอาคารที่ทำการเนชั่นทีวี และจะไม่ข้ามไปที่ด้านหน้าเนชั่นทีวี รวมถึงไม่มีการยื่นหนังสือหรือข้อเรียกร้องใดๆ


 แต่วันนี้มีเพียงการอ่านแถลงการณ์จากกลุ่มประชาชนต่อต้านเฟคนิวส์หรือข่าวปลอม ขอให้สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยพิจารณาทบทวน และบทลงโทษในการนำเสนอสื่อที่บิดเบือนข้อเท็จจริงของเครือเนชั่นทีวี ข้อความบางช่วงบางตอนของแถลงการณ์ระบุว่า การนำเสนอข่าวของเนชั่นทีวีนำเสนอข้อมูลคาดเคลื่อนบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนผู้รับข้อมูลข่าวสารเกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ในสังคมสร้างความปลุกปั้นแตกแยก