แหล่งข่าวจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (20 ต.ค.63) ศาลอาญามีคำสั่งปิดทุกแพลตฟอร์ม Voice TV และ เยาวชนปลดแอก พบกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง
อย่างไรก็ตามวันนี้ (21 ต.ค.63) ศาลได้เรียกเจ้าหน้าที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปไต่สวนเพิ่มเติม โดยอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งขณะนี้ต้องรอคำสั่งจากศาล
ขณะที่นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวชี้แจงว่าคำสั่งปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ของสื่อต่างๆนั้นเป็นไปตามกระบวนการ เริ่มจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งมาในฐานะผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์เฉินที่มีความร้ายแรง ส่งมาให้ดีอีเอสโดยส่งรายชื่อสื่อ ออนไลน์ต่างๆให้เฝ้าระวัง ตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบพบหลักฐานแล้วพิจารณาว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก็ส่งให้ศาลมีดุลยพินิจสั่งปิดหรือไม่ต่อไป เมื่อศาลมีคำสั่งมา ดีอีเอสจะส่งต่อให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตดำเนินการปิดกัน โดยในส่วนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูป ขึ้นอยู่ผู้ให้บริการว่าจะดำเนินการ ปิด หรือปิดกั้นตามคำสั่งศาลหรือไม่