จ่อฟัน“4 แกนนำม็อบ”ปราศรัยหมิ่นสถาบัน

21 ก.ย. 2563 | 12:11 น.

ตร.จ่อเอาผิด 4 แกนนำม็อบ 19 ก.ย. ผิดกฎหมายหลายด้าน หมิ่นสถาบัน-รุกสนามหลวง-ทำลายสิ่งกีดขวาง  

 

วันนี้(21 ก.ย.63) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมแนวทางการดำเนินคดีกับแกนนำ กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรมชุมนุมใหญ่ บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.

 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า กรณี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) รับหนังสือจากแกนนำผู้ชมนุม ได้เสนอมายังตำรวจแล้ว ซึ่งฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างตรวจสอบเนื้อหาเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

 

โดยมีประเด็นที่อยากชี้แจงเพิ่มเติม ในบทบาทของผู้รักษากฎหมาย การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ แต่มีบางส่วนที่ละเมิดกฎหมาย เช่น แกนนำทำผิดกฎหมายการชุมนุมสาธารณะหลายๆ ด้าน รวมทั้งทำผิดตามกฎหมายอาญามาตราต่างๆด้วย จากถ้อยคำการปราศรัยของแกนนำบางคนที่หมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมายอาญา มีการใช้ถ้อยคำที่ไม่สมควรต่อสถาบัน ทั้งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 

 

 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในฐานะผู้รักษากฎหมาย ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่กับผู้ที่ละเมิด ทราบว่าวันนี้มีประชาชนบางท่านไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.ชนะสงครามแล้ว ซึ่งคนไทยทุกคนมีความจงรักภักดีต่อสถาบันที่สำคัญต่อประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมากษัตริย์ ที่มีคุณูปการต่อการเจริญเติบโตของประเทศมาโดยตลอด

 

กรณีที่แกนนำบางคนอาศัยโอกาสทำเรื่องไม่เหมาะสม ละเมิดต่อสถาบันอันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของคนไทยทุกคน เป็นหน้าที่ของตำรวจทุกนายต้องปกปักพิทักษ์รักษา และตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับผู้ที่แสดงออกและผู้สนับสนุน ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น เบื้องต้นพบว่าผู้ที่ปราศรัยในลักษณะไม่เหมาะสมประมาณ 3-4 คน 

 

 พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับแกนนำแยกเป็นต่างกรรมต่างวาระกัน ทั้งการเคลื่อนย้ายมวลชน ทำลายสิ่งกีดขวาง การรุกเข้าไปในสนามหลวง และการปราศรัย ส่วนการกระทำผิดที่ชัดเจนคือ การไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และความผิดตามที่กรุงเทพมหานครและกรมศิลปากร มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ รวมทั้งกฎหมายอาญาอื่นๆ ที่ปรากฎชัดเจนตามเอกสาร และถ้อยคำต่างๆ

ในฐานะตำรวจ เมื่อมีผู้ร้องทุกข์ก็ต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน การจะผิดกฎหมายมาตราใดคงเป็นไปตามฐานความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้การดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน มีรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายกฎหมาย เป็นผู้ควบคุมดูแล

 

 

 

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สน.ชนะสงคราม ว่ามีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับแกนนำประมาณ 10 รายหลักๆ เป็นข้อหา ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ การชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการบุกรุกไปใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสนามหลวง ทราบว่ามีกรุงเทพมหานครกับกรมศิลปากร เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว กรณีแกนนำบางคนที่ทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาถอนประกัน