วันนี้(17 ก.ย.63) หลังเกิดเหตุ ยิงกันตายยกครัว 5 ศพ ในบ้านเลขที่ 9/34 หมู่บ้านอลิชาเพลส 2 ถนนครุใน ซอย 3 แขวงและเขตทุ่งครุ ทางตำรวจนครบาลทุ่งครุ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น เปิดกิจการค้าน้ำยาเคมีและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ ภายใต้ชื่อ บริษัท เวล อินดัสเทรียล ซัพพลาย จำกัด จากการตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณชั้นล่าง 1 ราย และ ชั้นที่ 2 อีก 4 ราย รวมเป็น 5 ศพ พบปลอกกระสุนปืนกึ่งอัตโนมัติยังไม่ทราบขนาดกระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก และยังพบปืน 1 กระบอก ในมือของผู้ชายที่นอนเสียชีวิต
จากการสอบถามเพื่อนบ้านผู้ตาย เล่าว่า เจ้าของบ้านดังกล่าวชื่อ นายเล็ก (นามสมมุติ) อายุประมาณ 35-40 ปี อาศัยอยู่กับพ่อ แม่ ภรรยา และน้องชินจัง บุตรชายวัย 5 ขวบ เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนดังจากในบ้าน 2 นัด ตามด้วยเสียงผู้หญิงคาดว่าเป็นภรรยาร้องว่า “เจ็บเล็กเจ็บ” จากนั้นสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดกระทั่งตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
อ่านประปอบ
นางรักจิต ทุมรินทร์ อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และได้ยินเสียงคนในบ้านร้องคล้ายคนเจ็บ จากนั้นประมาณ 07.00 น. รู้สึกผิดสังเกตที่คนในครอบครัว ยังไม่ตื่น เพื่อส่งหลานไปโรงเรียน จึงเดินไปดูที่บ้าน และเห็นว่าผู้หญิงสูงอายุ นอนเสียชีวิตในบ้าน จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ
ส่วนสาเหตุ ไม่ทราบว่า เกิดจากปัญหาอะไร และไม่ทราบว่าใครเป็นคนลงมือยิง เพราะที่ผ่านมาครอบครัวนี้ ไม่เคยแสดงความเครียด หรือ มีปัญหาธุรกิจอะไร โดยครอบครัวนี้ ทราบว่าทำธุรกิจขายอุปกรณ์สเปรย์ล้างคราบน้ำมัน ห้องเครื่อง และยางมะตอย
นางรักจิตร เล่าต่อว่า บ้านหลังนี้มีผู้พักอาศัยอยู่ 5 คน ปู่ ย่า ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานชาย อายุ 7-8 ขวบ มีความคุ้นเคยสนิทในฐานะเพื่อนบ้านมา 5-6 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา คนในบ้านหลังนี้ก็ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง ไม่มีความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน ไม่มีศัตรู เป็นเพื่อนบ้านที่ดี
“คาดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นปัญหาเรื่องธุรกิจครอบครัว ซึ่งล่าสุดก็พึ่งจะเดินทางไปวัดเจดีย์ไอ้ไข่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอเรื่องโชคลาภ ก่อนจะเดินทางกลับมาก่อนวันหวยออกซักประมาณอาทิตย์ที่แล้ว” นางรักจิตร ระบุ
อย่างไรก็ตามส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 5 ศพ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าจะเกี่ยวข้องกับปัญหาทางธุรกิจของครอบครัวผู้ตายหรือไม่ ส่วนประเด็นอื่นก็ยังไม่ตัดทิ้ง