พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) กล่าวถึงมาตรการรับมือการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ของกลุ่มนักศึกษาในนาม "แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม" และจะมีการเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบรัฐบาล ในเช้าวันที่ 20 กันยายนนี้ว่า เจ้าหน้าที่ได้เตรียมใช้ “แผนกรกฎ 52” เป็นแนวทางดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ซึ่งตำรวจจะพิจารณาจัดวางกำลังตามสัดส่วนของผู้ชุมนุม ยืนยันว่าไม่ใช่การลิดรอนสิทธิแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผบช.น.คาดว่า จะมีการใช้ 3 พื้นที่ในการชุมนุม คือ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ที่ล่าสุดมีการประกาศห้ามใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย สนามหลวง และ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะชุมนุมที่ใด แต่พื้นที่สนามหลวง มีการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ต้องขออนุญาตใช้พื้นกับกทม. จนถึงขณะนี้ยังไม่มีขออนุญาตใช้พื้นที่ในการชุมนุมบริเวณอื่นและไม่ว่าจะจัดที่ใดตำรวจก็พร้อมดูแล หากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
“เบื้องต้นยังไม่มีข่าวเรื่องที่น่าเป็นห่วง หรือมือที่สามสร้างสถานการณ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ให้ปฏิบัติกับผู้ชุมนุมเหมือนลูกหลาน" ผบช.น. ระบุ
“ขอความร่วมมือผู้นำการชุมนุม ผู้ชุมนุม ปฎิบัติตามมาตรการควบคุมโรค พ.ร.บ.จราจร และ พ.ร.บ.การชุมนุม ตำรวจมีความห่วงใย หากมีผู้ชุมนุมจำนวนมากล้นออกมานอกพื้นที่ อาจกระทบปัญหาการจราจร ซึ่งตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางช่วงใกล้การชุมนุมอีกครั้ง โดยจะตั้งจุดคัดกรองรอบพื้นที่การชุมนุม 4 จุด รอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยจะตรวจค้นอาวุธ ตรวจวัดอุณหภูมิ ขอผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือในการดูแลความสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้ หากผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไปยื่นข้อเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาล ขออย่าเคลื่อนแบบสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น หรือละเมิด พ.ร.บ.การชุมนุม ซึ่งตาม พ.ร.บ.การชุมนุม มีข้อกำหนดว่า ห้ามผู้ชุมชุมใกล้ทำเนียบรัฐบาล หรือสถานที่ราชการสำคัญในรัศมี 50 เมตร