เลี่ยงปะทะม็อบ นายกฯสั่งเน้นดูแลความปลอดภัย 19 ก.ย.
“นายกฯ” มอบแนวทางเจ้าหน้าที่เลี่ยงเผชิญหน้าม็อบ 19 ก.ย. ชี้ผู้ไม่หวังดีคอยปลุกระดม ทำบ้านเมืองไม่สงบ เผยไม่ได้ห่วงตัวเองจะอยู่หรือไป แต่ห่วงกลไกพังแก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ฝ่ายมั่นคงคาดมีผู้ชุมนุม 5 หมื่น
กรณีกลุ่มนักศึกษาในนาม “แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม” นำโดย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 19 กันยายน 2563 ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อ “ทวงอำนาจคืนราษฎร” โดยจะเป็นการชุมนุม 2 วัน 1 คืนนั้น
เลี่ยงปะทะม็อบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้แนวทางกับเจ้าหน้าที่ในการรับมือกับการชุมนุมทางการเมืองของ “แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม” โดยให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะดูแลด้านความปลอดภัยให้ดีที่สุด รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงหลีกเลี่ยงการปะทะอยู่แล้ว แต่หากมีกลุ่มไหนที่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าหรือ ต้องการสร้างสถานการณ์รุนแรง ก็ต้องช่วยกันจับตาดูไม่ให้เกิดขึ้น และอยากให้ทุกคนช่วยกันระมัดระวัง มือที่ 3 เพื่อประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและบริหารประเทศไทย เพราะหลายประเทศก็ต้องการให้ประเทศสงบสุข
“ขอร้องกันทุกฝ่าย ทั้งแกนนำผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ช่วยกันสังเกตสอดส่องเป็นหูเป็นตา และดูแลลูกหลานของเราให้ปลอดภัย อย่าให้ตกเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของใคร ถ้าเป็นการชุมนุมบริสุทธิ์ผมไม่เคยมีปัญหากับใครทั้งสิ้น ส่วนบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็ต้องไปสืบหากันต่อไปหลังจากนี้ ซึ่งพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนที่มีเอกสารปลอมออกมาว่าทางกองทัพเตรียมกำลังปราบกลุ่มผู้ชุมนุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงแล้วว่าเป็นเอกสารปลอม เพราะขณะนี้การเติบโตของเทคโนโลยีมีมาก สามารถปลอมแปลงได้ทุกเรื่อง ทั้งภาพ เสียง หรือ เอกสาร ขอให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันในการรับข้อมูลก่อนส่งต่อ ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งเจ้าหน้าที่ และกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีการตรวจสอบอาวุธ และคัดกรองโรค ก่อนเข้าชุมนุม
นายกฯห่วงการชุมนุม
“ผมเป็นห่วงเรื่องการชุมนุมอะไรก็แล้วแต่ วันนี้มีหลายอย่างที่มันแพร่อยู่ตามสื่อโซเชียลต่างๆ ซึ่งทุกคนก็ต้องเช็กก่อนแชร์ ก่อนส่งต่อไปที่อื่น หรือไปขยายความ ซึ่งบางทีก็มีคนไม่หวังดีไปใช้ตรงนั้นในการปลุกระดมพล ปลุกปั่นขึ้นมา ผมถามว่าถ้าบ้านเมืองไม่สงบแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ตัวผมเองไม่ห่วงอยู่แล้วว่าจะอยู่หรือจะไป แต่เป็นห่วงว่ารัฐบาลจะอยู่ตรงไหน
หลายๆ อย่างที่เป็นกลไก ที่จะไปแก้ปัญหาไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญอะไรก็แล้วแต่ ใครจะทำ ก็ไปดูตรงโน้น ดังนั้น อย่ากดดันในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่าสังคมประชาชนส่วนใหญ่ทราบดี จึงขอแสดงความห่วงกังวล เพราะท่านก็รักลูกของท่าน ผมก็รักลูกของผม และผมจำเป็นต้องรักลูกของท่านด้วย เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นคือสิ่งที่ต้องดูแล”
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี สิ่งสำคัญที่สุดรัฐบาลมีโครงการจ้างงาน ที่กระทรวงแรงงานเตรียมการไว้แล้ว โดยจะจ้างงานนิสิต นักศึกษาที่ตก งานหรือยังไม่มีงานทำถึง 2.6 แสนคน ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลเป็นพิเศษและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลวางแผนไว้อยู่แล้วในการดูแลตรงนี้
“ผมถามว่าหากวุ่นวาย มีปัญหามากๆ บริหารราชการไม่ได้ บริหารงบประมาณไม่ได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคนอีกกว่า 60 ล้านคนที่เสียประโยชน์ แล้วจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ ผมขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน ขอให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำและช่วยกันแก้ปัญหา” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
คาดชุมนุม 5 หมื่นคน
ด้านการประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้นั้น แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางมาร่วมชุมนุมประมาณ 50,000 คน เพราะครั้งแรกที่มีการจัดชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต มีคนมาเข้าร่วมประมาณ 10,000 คน
ส่วนครั้งที่ 2 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีคนมาร่วมชุมนุมประมาณ 30,000-40,000 คน แต่ครั้งนี้จะมีกลุ่มมวลชนของพรรคการ เมือง และกลุ่มคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัดหลายจังหวัด อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี รวมถึงมวลชนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสานบางส่วน เดินทางเข้ามาร่วมสมทบใน กทม.ด้วย ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงเด็กๆ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา แต่เป็นคนมีอายุจนถึงผู้สูงอายุ
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าไม่มีการปะทะกันรุนแรง เพราะทางเจ้าหน้าที่จะเน้นเจรจาพูดคุย และจะล็อกเป้าไว้ที่แกนนำเท่านั้น โดยคาดว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ และน่าจะเป็นไปตามที่แกนนำวางแผนไว้
ระดมตำรวจ 300 นาย
ดูแลทำเนียบรัฐบาล
กรณีที่คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ในการชุมนุมระหว่างวันที่ 19-20 กันยายนนั้น พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ซึ่งรับผิด ชอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงการรับมือว่า ได้จัดเตรียม กำลังตำรวจกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาล รวม 2 กองร้อย หรือ 300 นาย ดูแลพื้นที่ภายในทำเนียบรัฐบาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด และได้แจ้งกำลังพลแล้วว่า ถ้ามีผู้ชุมนุมพยายามบุกรุกเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล เบื้องต้นให้เจรจาก่อนแล้ว จึงใช้มาตรการขั้นต่อไปส่วนภายนอกรั้วทำเนียบรัฐบาลจะอยู่ในความดูแลของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
“นายกฯสั่งการกำชับเป็นพิเศษคือ ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะกำหนดว่า ต้องมีระยะห่างจากทำเนียบรัฐบาล 50 เมตร คือ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์”
พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวด้วยว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาล จะทำตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 19-20 กันยายน โดยจะใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก ไม่ใช้กำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ทหาร และมาตรการป้องกันทำเนียบรัฐบาลไม่มีชื่อแผน แต่จะดูตามสถานการณ์มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯเป็นห่วงหรือไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินเลยไปถึงลานพระบรมรูปทรงม้า พ.ต.ท. วัชรวีร์ กล่าวว่า ยังไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ และในทางการข่าว ยังไม่มีข่าวเช่นนั้น
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,610 หน้า 12 วันที่ 17 - 19 กันยายน 2563