"บิ๊กป้อม" ย้ำ 8 มาตรการเร่งด่วนบริหารจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยา

14 ส.ค. 2563 | 19:10 น.

“บิ๊กป้อม” เน้นย้ำ 8 มาตรการเร่งด่วนจัดการ-แก้ไขปัญหาน้ำทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ของประเทศ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน-สร้างความมั่นคงด้านน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม 2563) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานพิธีเปิดพร้อมกล่าวมอบนโยบายการประชุมเสวนา “ส่องแผนรัฐ รับมือฝน ปี 2563 ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รอดหรือไม่?” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนเกษตรกร ผู้แทนภาคอุตสาหกรรม และนักวิชาการ กว่า 200 คน เข้าร่วมงาน

 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาน้ำทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ของประเทศเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนและสร้างความมั่นคงด้านน้ำในทุกภาคส่วน โดยวันนี้เป็นการร่วมกันแสดงความพร้อมของหน่วยงานภายใต้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ รับมือกับสถานการณ์ฝนในปีนี้

 

ตามที่รัฐบาลได้เห็นชอบ 8 มาตรการเร่งด่วน ประกอบด้วย

1. การคาดการณ์พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วม
2. การปรับแผนการเพาะปลูกพืช
3. การจัดทำเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำ
4. การตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ และสถานีโทรมาตร
5. การตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ดึง AI เพิ่มประสิทธิภาพบริหารเขื่อน จัดการน้ำต้นทุน

ดีป้า หนุน “เกษตรอัจฉริยะ” ชูไอโอทีบริหารจัดการน้ำฝ่าวิกฤติ ภัยแล้ง

มอบดาบ อบต.ฟื้นชีพ 1.4 แสนแหล่งน้ำขนาดเล็กทั่วไทย

กรมชลยันพ้นวิกฤติแล้ง โชว์5แผนบริหารน้ำรับฝน


6. การสำรวจแม่น้ำคูคลองและดำเนินการขุดลอก กำจัดผักตบชวา
7. เตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือ
8. สร้างการรับรู้กับประชาชน

 

ถือได้ว่าเป็นแผนรองรับสถานการณ์น้ำในเชิงป้องกัน โดยได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวล่วงหน้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ ขยะมูลฝอย และผักตบชวา ที่สามารถกำจัดได้แล้วกว่า 500,000 ตัน ในบริเวณต่างๆ 143 แห่ง รวมถึงการเตรียมพื้นที่รับน้ำในทุ่งเจ้าพระยา และการวางแผนกักเก็บน้ำในฤดูฝนนี้ไว้ใช้สำหรับฤดูแล้งปีหน้าให้ได้มากที่สุด

 

นอกจากนี้รัฐบาลยังมอบหมายให้จัดทำแผนงานหลักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นลุ่มน้ำที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเป็นแผนงานระยะยาวที่เน้นเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัย 9 แผน ซึ่งที่ผ่านมา สทนช. เป็นหน่วยงานหลัก ศึกษาอย่างรอบคอบให้ทุกแผนงานโครงการเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

 

และต่อจากนี้มอบหมายให้ สทนช. เร่งบูรณาการแผนหลักดังกล่าวกับหน่วยงานปฏิบัติขับเคลื่อนให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็วเพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพิ่มศักยภาพในการใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านการเกษตร แก้ปัญหาและพัฒนาในทุกมิติต่อไป พร้อมเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการน้ำในพื้นที่กับภาคราชการ และสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับประชาชนด้วย

 

ด้าน ดร.สมเกียรติ ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายหลักของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และแสดงความพร้อมถึงการเตรียมรับมือฤดูฝนปี 2563 ภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 40 หน่วยงาน จาก 8 กระทรวง ได้ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงรายงานความก้าวหน้าการสนับสนุนงบกลางเพื่อช่วยเหลือภัยแล้งและเตรียมการรองรับอุทกภัย ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในปี 2563 จำนวนทั้งสิ้น 29,160 โครงการ โดยความร่วมมือจาก 15 หน่วยงาน เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาอย่างทันท่วงที

 

นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยงานวันนี้จะมีการนำเสนอมาตรการระยะยาวในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่จะกระทบกับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญระดับประเทศ และเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นไปตามแผนงานผ่านเวทีการเสวนาด้วย