เปิดประวัติ “กรุงศรีวิไล” ทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ สำเร็จ

09 สิงหาคม 2563

เปิดประวัติ “กรุงศรีวิไล” ทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ สำเร็จ โกยคะแนนท่วมท้นมากกว่า 40,000 คะแนน

จากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 สมุทรปราการ เมื่อวานนี้ ( 9 สิงหาคม 2563) ปรากฏว่า กรุง ศรีวิไล หรือ กรุง ศรีวิไล สุทินเผือก เจ้าของพื้นที่เดิมสามารถชิงเก้าอี้ส.ส.กลับคืนมาได้สำเร็จ ด้วยจำนวนคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งขันคนสำคัญ อย่าง นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย หลายหมื่นคะแนน  

 

กรุง ศรีวิไล ปัจจุบันอายุ 74 ปี เกิดที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จบประถมศึกษาที่โรงเรียนบางพลีน้อย และชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในตัวอำเภอโดยอาศัยอยู่กับวัด หลังจบชั้น ม.6 ย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนในจังหวัด แต่ยังไม่ทันจบชั้น ม.8 ได้ตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ สอบเข้าโรงเรียนช่างกลปทุมวัน เรียนอยู่ได้ 2 ปีก็ถูกสั่งให้ออก อย่างไรก็ดี หลังถูกสั่งให้ออกได้เรียนภาษาอังกฤษ และพิมพ์ดีดเพิ่มเติม จึงได้รู้จักกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง ได้ฝากเข้าทำงานกับกรมศุลกากร เป็นฝ่ายติดต่อราชการ และงานด้านชิปปิ้ง ทำอยู่ได้ 4 ปี ได้ออกมาเปิดร้านขายผ้าไหมส่งออกที่โรงแรมแมนดาริน และต่อยอดธุรกิจโดยเปิดร้านจิวเวลรี่เพิ่ม กระทั่งย่างเข้าปีที่ 4 กิจการไปไม่ไหว หุ้นส่วนหนีไปต่างประเทศพร้อมเงินสดในร้านจึงต้องปิดกิจการ

 

ชื่อของ กรุงศรีวิไล เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ ในฐานะนักแสดง จากภาพยนตร์เรื่อง ลูกยอด ที่แสดงคู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ หลังจากที่ มิตร ชัยบัญชา เสียชีวิต ก่อนจะดังเป็นพลุแตกกับภาพยนตร์เรื่อง ทอง ภาค 1โดยได้รับรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมของเอเชียที่ส่งไปประกวดที่ไทเป หรือ ไต้หวันในปัจจุบัน และได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง จากภาพยนตร์เรื่อง ชู้ และมีผลงานการแสดงออกมาหลายเรื่อง ทั้งยังมีโอกาสได้แสดงร่วมกับดาราต่างประเทศชื่อดังด้วย  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

“กรุงศรีวิไล”เฮ คัมแบ็คเก้าอี้ส.ส.สมุทรปราการ

“ประธานกกต.”พอใจภาพรวมเลือกตั้งซ่อมส.ส.สมุทรปราการ

ประธานกกต.เชิญชวนใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมส.ส.สมุทรปราการ

 

ชื่อ “กรุง ศรีวิไล” ตั้งโดย เลียว ศรีเสวก (อรวรรณ) นำมาจากชื่อตัวละคร  “กรุง ศรีวิลัย” ตัวเอกในเรื่อง ลูกยอด ที่ตีพิมพ์ในนิตยสารบางกอก และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตการแสดงของ กรุง ศรีวิไล นั่นเอง

 

ในปี 2550 กรุง ศรีวิไล ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ และตัดสินใจเข้าสู่ถนนการเมือง โดยลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่จังหวัดสมุทรปราการ ในนามพรรคพลังประชาชน ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบเหลือง กล่าวหาว่า ทุจริตการเลือกตั้ง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ จนศาลยกคำร้อง

 

ต่อมาหลังจากที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบจึงย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ก่อนจะย้ายไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย เมื่อพรรคเพื่อไทย ติดประกาศหน้าพรรคห้าม กรุง ศรีวิไล และ ส.ส. ของพรรคอีก 3 คน เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของพรรค กรุงศรีวิไล จึงได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในวันเดียวกันนั้นเอง

 

ในการเลือกตั้งปี 2554 กรุง ศรีวิไล ได้ลงสมัครเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ เขต 5 สังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่ได้แพ้ให้กับ นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนการเลือกตั้งนั้นเขาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น กรุงศรีวิไล สุทินเผือก อย่างในปัจจุบัน ต่อมาในปี  2561 กรุง ศรีวิไล ได้เดินทางไปยัง กกต. เพื่อยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ก็ได้รับเลือกตั้งกลับมาอีกครั้ง 

จากนั้นในวันที่ 2 ธันวาคม ปีเดียวกันนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีมีบุคคลใกล้ชิดของกรุง ศรีวิไล นำเงินใส่ซองช่วยเหลืองานศพ ส่งผลให้ กรุง ศรีวิไล ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา กระทั่งในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้พิพากษาให้มีการเลือกตั้งใหม่เขต สมุทรปรากการ ซึ่งกรุง ศรีวิไลสามารถสมัครรับเลือกตั้งในคราวนี้ได้

 

และในการเลือกตั้งซ่อม เขต 5 สมุทรปราการ รอบนี้ กรุงศรีวิไล สามารถเอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอยได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 40,000 คะแนน จากประชาชนให้กลับเข้ามาทำหน้าที่ ส.ส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง

 

ข้อมูล วิกิพีเดีย