"วิชา" ตั้งคณะทำงาน 4 ชุดไล่บี้คดี "บอส อยู่วิทยา" ดึง ปปง.สอบเส้นทางเงิน

03 ส.ค. 2563 | 12:34 น.

"วิชา มหาคุณ" ตั้งคณะทำงาน 4 ชุด เร่งสางคดีบอส อยู่วิทยา ดึง ปปง.สอบเส้นทางเงิน ยัน เรียกทุกสำนวนตรวจสอบ ทั้งของ สน.ทองหล่อ-อัยการ-กมธ.กฎหมายสมัย สนช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน (คดีบอส อยู่วิทยา) ที่มีนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง นายวิชา ประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดนี้มีผู้เชี่ยวชาญอยู่หลากหลายสาขาและได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้น ได้ข้อสังเกตที่ดี เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบในประเด็นที่ละเอียดต่อไป โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้น 4 ชุด ประกอบ

1.คณะทำงานตรวจสอบอัยการ มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เพราะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย 

2.คณะทำงานการตรวจสอบตำรวจ มี นายเข็มชัย ชุติวงศ์ เป็นประธาน เพราะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม 

3.คณะทำงานตรวจสอบบุคคลทั่วไป มี นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยคณะทำงานชุดนี้จะต้องตรวจสอบพยาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง กรรมาธิการ ทนายความ ซึ่งเป็นคนที่ไม่ใช่ตำรวจและอัยการ ขณะที่ผู้แทนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะร่วมอยู่ในคณะนี้โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

2 กมธ.ร่วมถก คดี“บอส อยู่วิทยา”

คดีบอส อยู่วิทยา “สมัคร เชาวภานันท์” ทนายความเปิดปากครั้งแรก

พลิกคดีบอส อยู่วิทยา คำให้การ “จารุชาติ มาดทอง”

นายกฯสั่งอายัดศพ"จารุชาติ"ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่  

 

นอกจากนี้จะขอผลการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยจะขอมาดูให้หมด 

4.คณะทำงานตรวจสอบด้านกฎหมาย มี นายปกรณ์ นิลประพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธาน  

นายวิชา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานที่มีหน้าที่รวบรวมสรรพเอกสาร ทั้งตัวเอกสารหรือสิ่งที่ได้จากโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ คลิป หรือข้อคิดเห็นจากประชาชนต่างๆ ซึ่งจะเปิดช่องทางให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ถือเป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญทางไอที และจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาในการทำงาน รวมไปถึงทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ 

 

ดังนั้น ถ้าใครต้องการส่งเอกสาร หลักฐาน หรือจะให้ข้อมูลใดๆ แก่คณะกรรมการสามารถติดต่อมาได้ที่ตน หรือช่องทางที่เรากำลังจะเปิด เพื่อรับข้อมูล หรือว่าคนที่มีความคับข้องใจ ซึ่งมีทั้งอัยการและตำรวจที่อยากจะให้ข้อมูลจำนวนมาก เราอยากได้ทุกความเห็น สามารถส่งเข้ามาได้ 

 

ทั้งนี้ คณะทำงานแต่ละชุดจะทำงานคู่ขนานกันไปกับคณะกรรมการชุดใหญ่ที่จะประชุมกันสัปดาห์ละ 2 ครั้งในช่วงแรกนี้เนื่องจากมีความเร่งรัดอย่างมากเพื่อให้เสร็จสิ้นได้ใน 30 วัน โดยคณะกรรมการฯจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ก.พ.เดิม ถ.พิษณุโลก ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล     

ต่อข้อซักถามที่ว่าทางคณะกรรมการฯ จะมีการขอสำนวนหลักฐานต่างๆจากอัยการโดยเฉพาะผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบพิจารณาคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ของอัยการที่จะได้ข้อสรุปในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ว่า คณะกรรมการฯของเราจะเชิญฝ่ายเลขานุการของคณะทำงานตรวจสอบของอัยการมาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะคณะกรรมการชุดนี้จะได้ทุ่นเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่า จะยึดตามนั้นไปตลอด เพราะถ้าข้อมีเพิ่มเติมอะไรจะพิจารณากันอีกที

 

รวมไปถึงสำนวนของตำรวจ ที่ สน.ทองหล่อทำมาตั้งแต่ต้น และสำนวนของอัยการที่ทำส่งไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ด้วย เพราะทุกสำนวนจะต้องส่งมาให้เราทั้งหมด รวมไปถึงประเด็นการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานในคดีของนายวรยุทธ ไม่ว่ามีข้อสงสัยอะไรต้องเอามาดูให้หมด แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการชันสูตรศพของนายจารุชาติ ต้องรอรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และกองบังคับการปราบปราม  

 

ถามว่าจะต้องเชิญนายตัวนายวรยุทธมาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่นั้น นายวิชา กล่าวว่า ได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานไปแล้ว คณะทำงานชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณาอีกทีว่า จะเชิญบุคคลใดบ้าง ดังนั้น ก็จะต้องดูว่าควรเชิญนายวรยุทธหรือไม่

 

ส่วนกรณีที่ระบุว่า หากอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้วจะมีช่องทางทำให้เป็นคดีพิเศษได้หรือไม่นั้น นายวิชา ระบุว่า เรื่องนี้ต้องศึกษาก่อนซึ่งในวันที่ 5 ส.ค. นี้ โดยคณะกรรมการฯจะคุยกันในเรื่องข้อกฎหมายอย่างละเอียด เพราะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้รับมอบหมายจากตนไปแล้ว  

 

ส่วนกรณีที่ว่า นายกฯมีอำนาจที่จะสั่งให้ตำรวจไปทบทวนความเห็นที่ไม่คัดค้านกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องได้หรือไม่นั้น นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ต้องดูว่า หากเสนอแล้วต้องเป็นไปได้ คือ ถ้าเสนอแล้วยังกั๊กอยู่ ติดอยู่ ก็ไม่เอา ย้ำว่าเสนอแล้วต้องเป็นไปได้ สิ่งที่เราเสนอจะต้องเป็นความแน่นอน จะต้องปรึกษากันอีกที

"วิชา" ตั้งคณะทำงาน 4 ชุดไล่บี้คดี "บอส อยู่วิทยา" ดึง ปปง.สอบเส้นทางเงิน