11 กรกฎาคม 2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงการเดินทางไปพบสื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นการกลบปัญหาจากการบริหารราชการที่ผิดพลาด ยื้อการสืบทอดอำนาจอีกรูปแบบหนึ่งหรือไม่ว่า ในสถานการณ์วิกฤติของประเทศเช่นนี้ มั่นใจว่า นายกฯไม่ได้คิดถึงเรื่องการเมือง หรือเรื่องที่ไร้สาระแบบฝ่ายค้าน แต่นายกฯ มุ่งที่จะรับฟังปัญหาและสอบถามถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้รัฐบาลขับเคลื่อนประเทศเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ย้อนรอย "นายกฯ 3 ยุค" ทำไมต้องเดินสายพบสื่อ
"บิ๊กตู่"ร่อนจดหมายถึง บก.สื่อ เชิญถกขับเคลื่อนประเทศ
เฉกเช่นเดียวกันกับที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยเดินสายพบสื่อมวลชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการตั้งสภาปฏิรูปประเทศ เมื่อปี 2557 และก็มีผู้นำรัฐบาลหลายๆ คนก็เดินสายพบสื่อทุกรัฐบาล ไม่เห็นมีปัญหาอะไร กับเป็นสิ่งที่ดีงามจะได้สื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
“พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่มีความตั้งใจและความจริงใจมุ่งมั่น ยิ่งในยามที่ทั่วโลกเจอภาวะวิกฤติเศรษฐกิจจากภัยร้ายไวรัสเช่นนี้ ยิ่งจำเป็นต้องขอระดมความคิดและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นสิ่งที่ดีมิใช่หรือ ทำไมสติปัญญาของนายอนุสรณ์ จึงคิดได้แค่นี้”
นายสุภรณ์ กล่าวด้วยว่า การที่นายอนุสรณ์ พูดถึงการลาออกของ “4 กุมาร” โดยนายกฯ ไม่รู้ตัวมาก่อน และไม่ลา แต่กลับไปขออนุญาตนายสมคิด แทนนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในพรรค ซึ่งนายกฯไม่ได้เป็นกรรมการบริหาร หรือสมาชิกพรรค นอกจากนี้ทั้ง 4 คนก็ยังทำงานในรัฐบาลปกติและยังเป็นรัฐมนตรีที่มีภารกิจที่จะต้องทำงานอยู่ ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไร เห็นได้จากการหารือกับคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกฯก็ยังมีนายสมคิด รองนายกฯ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ร่วมนั่งหารืออยู่ด้วย ไม่ได้มีปัญหาตามที่นายอนุสรณ์กล่าวหา
“ที่บอกว่า นายกฯ เป็นศูนย์กลางพื้นที่รับปัญหา แต่เป็นปัญหาของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่นายกฯและรัฐบาลจะต้องให้ความช่วยเหลือ เช่นเดียวกับ ส.ส.ฝ่ายค้านที่ถือเป็นผู้แทนของประชาชน ก็ต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนเช่นเดียวกัน อย่ามัวแต่ทะเลาะกันภายในพรรคเพื่อไทย จนลืมแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน”
นายสุภรณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคไม่ได้เลย อย่างนายอนุสรณ์ ชอบทำตัวเป็นโทรโข่งจ้อรายวันไม่เคยเปลี่ยนพฤติกรรม ชอบใช้วาทกรรมวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ และรัฐบาล แทนที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองร่วมกัน จึงอยากฝากไปถึงหัวหน้าและประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยว่า โฆษกพรรคที่ชอบจ้อรายวันเช่นนี้ ทำให้ภาพพจน์พรรคเพื่อไทยในสายตาประชาชนดีขึ้นหรือตกต่ำลง