“นิพนธ์”ลุยเมืองชลสั่งลดอุบัติเหตุทางถนน-แก้น้ำท่วมพัทยา

10 ก.ค. 2563 | 06:54 น.

“นิพนธ์”ลุยเมืองชล ติดตามแผนป้องกันอุทกภัย-ขาดแคลนน้ำกระทบอีอีซี พร้อมเน้นย้ำลดอุบัติเหตุทางถนนพื้นที่ภาคตะวันออก

วันนี้(10 ก.ค.63) ที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายนิพนธ์ บุญญามณี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2)  พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติงาน การเตรียมความพร้อมเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปัญหาที่ดิน การป้องกันและลงอุบัติเหตุทางถนน และติดตามรับฟังผลกระทบของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีนายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะเมืองพัทยา สิ่งที่ต้องแก้ปัญหาคือต้องมาทบทวนแผนเผชิญเหตุและจุดอ่อนไหวที่ล่อแหลม จุดไหนอ่อนไหวที่สุด และให้ความสำคัญกับจุดนั้นก่อน เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวจะปล่อยให้น้ำท่วมเป็นประจำไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและการลงทุน

 

“ฝากให้การตรวจสอบสภาพความพร้อมของอุปกรณ์การใช้งานการระบายน้ำ เช่นเครื่องสูบน้ำ พาหนะ เรือท้องแบน ควรจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานในการขนย้ายอพยพ  สิ่งสำคัญที่ควรเน้นย้ำคือ การกำหนดจุดพื้นที่ปลอดภัยต่อการอพยพคนที่เรียกว่าศูนย์พักพิงชั่วคราว ต่อสิ่งล่อแหลมจากสถานการณ์น้ำท่วม และควรมีการซักซ้อมประจำปีของหน่วยงานต่างๆ ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง ใครจะเข้าถึงสถานการณ์เป็นกลุ่มแรกและกลุ่มต่อไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ความพร้อมการแจ้งเตือนประชาชนเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือเป็นเรื่องจำเป็นเพราะสามารถช่วยลดการสูญเสียได้”

                                      “นิพนธ์”ลุยเมืองชลสั่งลดอุบัติเหตุทางถนน-แก้น้ำท่วมพัทยา

นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากบทเรียนกรณี “พายุโพดุล” และ "พายุปลาบึก" ซึ่งมีคนไทยเสียชีวิตเพียง 1 รายเท่านั้น ทำให้เห็นความแตกต่างของตัวเลขความสูญเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบผลสำเร็จ

 

ดังนั้น การเตรียมความพร้อมจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการเตรียมการยังไม่เข้มแข็ง ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าการแจ้งเตือนประชาชนอยู่ในระดับต่ำมาก ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้สามารถทำได้หลายช่องทาง  Facebook Fanpage เว็บไซต์  ไลน์  วิทยุชุมชน ของหน่วยงานต่างๆก็ตาม ถือเป็นการแจ้งเตือนภัยได้ทั้งประเทศ

 

“สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือการระบายน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ อย่างเช่น เมืองพัทยา ถือเป็นอีกเมืองที่มีความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้งเพราะเป็นเมืองปลายทาง แต่ก็ต้องดูว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจะสามารถกักเก็บน้ำในส่วนที่ดีไม่มีสิ่งเจือปนไว้ใช้ได้อย่างไร และส่วนไหนควรที่จะปล่อยทิ้งลงทะเล ซึ่งเรื่องนี้กรมชลประทานจะต้องเข้ามาดูแลบริหารจัดการน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอความต้องการน้ำเพิ่มมากขึ้นจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและบริการ”

                              “นิพนธ์”ลุยเมืองชลสั่งลดอุบัติเหตุทางถนน-แก้น้ำท่วมพัทยา

รวมถึงความต้องการน้ำในการอุปโภคบริโภคของประชาชน กับปริมาณน้ำฝนที่ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ กักเก็บน้ำมีจำกัดไม่สามารถรองรับการขยายตัวดังกล่าวได้ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำ การแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่อีอีซี ต้องเริ่มจากการสร้างระบบให้เกิดการบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้น้ำสามารถใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ โดยนำน้ำเสียจากทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และชุมชน กลับมาบำบัดเพื่อนำมาใช้ซ้ำอีกครั้ง เป็นการลดปริมาณการใช้น้ำและแก้ปัญหามลพิษน้ำเสีย

 

นอกจากนี้ รมช.มหาดไทย ยังกล่าวถึงความปลอดภัยทางท้องถนนในช่วงวันหยุดยาว 25- 28 ก.ค.นี้ ขอให้ทางจังหวัดเตรียมความพร้อมการจราจรและดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนจำนวนป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เช่น ขับรถเร็ว เมาขับ และการฝ่าฝืนข้อบังคับจราจร ทั้งนี้ได้กำชับให้เพิ่มการเฝ้าระวัง รวมทั้งมีมาตรการป้องกันและแก้ปัญหากับพื้นที่ล่อแหลมหรือจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากข้อมูลสถิติที่มีต่อเนื่องกันมา โดยขอให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมทำงานกับจิตอาสาในพื้นที่เพื่อร่วมกันลดการสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้น 

 

ดังนั้น จึงให้จังหวัดได้ดำเนินการจัดการประชุมศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)​ ในทุกระดับทั้ง จังหวัด อําเภอ และท้องถิ่น ให้ติดตามงานและจัดการประชุมสรุปผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อม ทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสียบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด