เปิดไทม์ไลน์ "ปรับ ครม." กันยายน63

09 ก.ค. 2563 | 08:20 น.

นายกฯยัน "ปรับ ครม."แน่ หลังร่างพรบ.งบประมาณ 64 เสร็จ เผยไทม์ไลน์ "งบ 64" ผ่านสภาเดือนกันยายนนี้้  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค. เวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะทำงานนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังอาคารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีนายประชา เหตระกูล บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ และเข้าร่วมพูดคุยเพื่อรับฟังมุมมองในการขับเคลื่อนประเทศ 2 ประเด็น คือ

 

1.ประเด็นที่คนไทยและประเทศไทยของเราควรให้ความสำคัญในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร

 

2.ปัจจัยที่จะช่วยผลักดันและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จ โดยบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างเป็นกันเอง

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาพบปะกันในวันนี้ (9 ก.ค.) ไม่ได้มาเรื่องการเมือง แต่มารับการบ้านจากท่าน และอยากมารับฟังว่าพวกท่านมีความคิดเห็น หรือมีสิ่งใดในกิจการของพวกท่านที่จะสามารถช่วยในการแก้ปัญหาของประเทศ

 

ส่วนเรื่องการเมืองก็ว่ากันไป ใครจะลาออก ก็ต้องปล่อยเขาไป แต่ถ้าถึงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อไหร่ ตนปรับเอง แต่อย่าไปคิดกันเองว่าคนนั้นคนนี้จะได้ตำแหน่งอะไร ตอนนี้ตนคิดของตนอยู่ และเมื่อทุกอย่างพร้อม ก็จะปรับ

 

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าตอนนี้งานต่างๆ กำลังเดินหน้าอยู่ ต้องมีคนทำงาน แต่ถ้ามีใครลาออก ก็ต้องหาคนอื่นมาแทน มันมีกฎหมายมีระเบียบดูแลเรื่องนี้อยู่ และระหว่างที่รัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆ ไม่อยู่ ก็มีรัฐมนตรีคนอื่นทำแทนได้ แต่โดยรวมแล้วทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้นายกฯเพียงคนเดียว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เส้นทาง “4 กุมาร”ก่อนไขก๊อกพ้น พปชร.

อุตตม ลั่น "4 กุมาร" ลาออกพปชร. ปรับครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ

"4 กุมาร" แถลงลาออกจากพปชร. ลั่น "ภูมิใจได้ทำหน้าที่"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม  และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือกลุ่ม 4 กุมาร  ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนยังไม่รู้ เขาไม่ได้บอกตน แต่เขายังเป็นรัฐมนตรีอยู่จนกว่าจะมีการปรับครม.  

 

เมื่อถามว่าแล้วนายกฯยังจะใช้บริการรัฐมนตรีเหล่านี้ต่อไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ก็ต้องใช้สิ แต่เขาลาออกจากพรรค ถึงอย่างไรก็ต้องปรับมั้ง ต้องปรับตัวบุคคล เพราะมันเป็นวิถีทางการเมือง”

 

เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายเป็นห่วงว่าปรับครม.แล้ว อาจไม่ดีขึ้น หรืออาจได้ตัวบุคคลที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเริ่มมีการเสนอชื่อบางคนขึ้นมา ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปรับครม.มีกลไกที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งกลไกการเมือง กลไกเรื่องประชาธิปไตย กลไกที่เกี่ยวกับส.ส.  

 

ส่วนกรณีที่มีชื่อของบางคนว่าจะมาเป็นรัฐมนตรี แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากนั้น มันมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่ถูกวิจารณ์อาจไม่เหมาะสม แต่อีกส่วนหนึ่งคือ คนที่ออกมาวิจารณ์อย่างนั้น เขาเป็นคนที่อยากได้ตำแหน่ง แต่ไม่ได้ถูกเสนอชื่อก็ได้ จึงไปถล่มคนอื่น

 

ทั้งนี้การตั้งครม.ก็ต้องมีสัดส่วนของพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาล ขณะที่พรรคต่างๆ มีส.ส.ที่มาจาการเลือกตั้งโดยประชาชน เมื่อถามว่านายกฯมีโควตากลางของตัวเอง นายกฯ ย้อนถามว่า ของตนมีกี่คน 9 คนหรือ แต่พรรคที่มาร่วมรัฐบาลมีสัดส่วนของเขาด้วย ตนต้องขอสัดส่วนให้กับพรรคต่างๆ เช่นกัน


 

เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เดินต่อไปจากนี้จะสร้างความมั่นใจต่อรัฐบาลได้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรีเป็นคนเดิมอยู่ และต้องยึดเจตนารมย์ของตนและยุทธศาสตร์ของตน ประเทศเดินได้ด้วยยุทธศาสตร์ พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดและทุกคนที่ร่วมรัฐบาลต้องยึดยุทธศาสตร์ตรงนี้ ซึ่งตนไม่ยอมให้ใครมาล้มได้

 

“แต่ถ้ารัฐมนตรีคนเก่าไม่อยู่แล้ว ต้องหาคนใหม่ ถ้าใครยังอยู่ต่อ ก็ต้องดูว่าพรรคเขาจะว่าอย่างไร ผมสั่งไม่ได้ทั้งหมด เพราะมีเรื่องพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้การปรับครม.เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะผมไม่เคยพูดว่าจะไม่ปรับ แต่ต้องให้ประเทศเดินหน้าไปก่อน ต้องรอให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เสร็จเรียบร้อยออกมาก่อน และการใช้งบประมาณในการดูแลและฟื้นฟูเศรษฐกิจเริ่มมีความคืบหน้า เป็นไปอย่างเรียบร้อยและชัดเจนก่อน จากนั้นจึงจะปรับครม.เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ติดขัด”

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล มั่นใจว่ามีแรงดึงดูดมากเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชน นักธุรกิจ และต่างประเทศได้ ส่วนใครจะมาร่วมครม.บ้างนั้น อยู่ที่แต่ละพรรคดูความเหมาะสม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่นายกฯ บอกว่า ต้องรอให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ก่อน จึงจะปรับ ครม.นั้น

 

ตามไทม์ไลน์การจัดทำงบประมาณ ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้ผ่านวาระ 1 ของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2563 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการแปรญัตติฯ ที่มีกรอบเวลา 30 วัน หลังจากนั้นจึงเสนอเข้าสู่สภาฯ วาระ 2-3 ซึ่งเมื่อผ่านสภาผู้แทนฯ แล้ว จะเป็นการพิจารณาของวุฒิสภา ทั้งนี้คาดว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 จะมีผลบังคับใช้ได้ภายในเดือนกันยายน 2563 และการปรับครม.ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน “กันยายน” เช่นเดียวกัน