น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงพรรคพลังประชารัฐทั้งกรณีผลสำรวจของซูเปอร์โพล การชนะเลือกตั้งที่ จ.สมุทรปราการ และข้อมูลทุจริตเลือกตั้งที่ จ.ลำปางว่า อาจเข้าข่ายเป็นการแสดงความคิดเห็นที่กำลังดูถูกเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งประจำเขต เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ในจ.ลำปาง ที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐมีผลงานเป็นที่ประจักษ์จนทำให้ประชาชนในพื้นที่ไว้วางใจ มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งในเดือน มี.ค. 62 ที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับการเลือกตั้งที่สมุทรปราการ นายอนุสรณ์ ก็พูดจากความเห็นและข้อมูลที่อาจบิดเบือน ถือเป็นการดูถูกเสียงของประชาชนที่มาลงคะแนน
“ในทางกลับกัน ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง สะท้อนคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐ ในยุคที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคว่า ประชาชน มีความพอใจ และมั่นใจในพรรคพลังประชารัฐ เราจึงไม่หวั่นไหวต่อกระแสใดๆ เพราะมีผลงานเป็นคำตอบที่ดีที่สุด และเชื่อมั่นว่าจะสามารถมีชัยชนะในการเลือกตั้งส.ส.สมุทรปราการอีก”
รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับผลโพลล์ของ ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นั้น เป็นการสำรวจความคิดเห็นจากตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ไม่ได้เป็นการสำรวจความคิดเห็นของตัวอย่างประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าว
ดังนั้น จึงน่าแปลกใจว่าเหตุใด นายอนุสรณ์ ถึงเอามาโยงกันกับผลการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ได้ น่าสงสัยว่านายอนุสรณ์ ที่เป็น ส.ส. มานานอ่านและตีความผลโพลล์ไม่เป็น หรือรับไม่ได้ที่ที่ผ่านมาตัวแทนพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งซ่อมมาโดยตลอด จึงบิดเบือนผลโพลล์ออกมาทำนอง ”ขี้แพ้ชวนตี” แบบนี้
จากผลการเลือกตั้งซ่อมในเขตต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยสอบตก และผลโพลล์ที่แสดงถึงจำนวนลดลงของประชาชนที่จะเลือก ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยนั้น น่าจะสะท้อนให้นายอนุสรณ์ เห็นความจริงว่า "ทั้งความจริงและทั้งโพลล์" พรรคเพื่อไทยสอบตกทั้งสองทาง
หากกรณีเป็นเช่นนี้ แทนที่นายอนุสรณ์ จะใช้เวลาวิพากษ์วิจารณ์พรรคพลังประชารัฐ ควรใช้เวลาลงพื้นที่ที่ตนเองสอบตกบ้าง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่และควรเสนอแนวทาง สะท้อนให้พรรคเพื่อไทยเห็นว่าควรจะดำเนินการแก้ไขคะแนนนิยมที่ตกต่ำลงทั้งทางโพลล์และทางความเป็นจริงอย่างไร
"ที่ผ่านมา ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ทำงานกับประชาชนมาโดยตลอด ดำเนินการดูแลทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนจนได้รับความไว้วางใจและได้รับกำลังใจที่ดีจากพี่น้องประชาชน ซึ่งเมื่อผลโพลล์ดังกล่าวแสดงจำนวนลดลงของประชาชนที่จะเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐที่จะเลือกในปัจจุบันนั้น ทางพรรคพลังประชารัฐก็จะเร่งประชาสัมพันธ์ สื่อสารให้ประชาชนในภาพรวมเข้าถึงและเข้าใจผลงาน การดำเนินงาน และนโยบายของพรรค เพื่อให้สอดคล้องกับเสียงสะท้อนของประชาชนในพื้นที่จริงๆ เพราะยังมีผู้ตอบแบบสอบถามอีกเป็นจำนวนมาก หรือร้อยละ 41.2 ที่ระบุอื่นๆ คือไม่ได้ตัดสินใจพรรคใดพรรคหนึ่ง"รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
ก่อนหน้านั้น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงกรณีที่ซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจพรรคพลังประชารัฐได้รับความนิยมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประชาชนไม่เชื่อมั่นทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐว่า ผลสำรวจซูเปอร์โพลสอดรับในทิศทางเดียวกับโพลหลายสำนักที่ออกมาก่อนหน้านี้ รัฐบาลสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ยิ่งอยู่นาน คะแนนนิยม ความเชื่อมั่น ยิ่งดิ่งทรุดลดต่ำลงในแทบทุกมิติ บ้านเมืองกำลังจมดิ่งอยู่ในวิกฤติซ้อนวิกฤติ มาตรการเยียวยาจากรัฐบาลสิ้นสุดลง คนยังตกงาน ประชาชนประสบปัญหาทำมาหากินไม่ได้ สิ้นหวัง รัฐบาลไม่มีมาตรการเยียวยาต่อเนื่องที่ชัดเจน
“น่าแปลกใจที่แม้โพลล์แทบทุกสำนักจะสะท้อนความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลเผชิญวิกฤติศรัทธาขยายลุกลามไปทั่วทั้งประเทศ แต่ในสนามการเลือกตั้งซ่อม พรรคพลังประชารัฐ สามารถพลิกชนะได้ แสดงว่าแม้คะแนนความนิยมจะตกต่ำ แต่อาจมีวิธีการบริหารจัดการให้ได้มาซึ่งคะแนนด้วยวิธีพิเศษ มีการใช้อำนาจรัฐ การใช้ทรัพยากรของรัฐ เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่”
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า กกต.เห็นผลโพลล์สะท้อนคะแนนนิยมที่ตกต่ำของรัฐบาลแต่ยังสามารถชนะเลือกตั้งซ่อมได้ ยังมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าสามารถบริหารจัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม จากลำปางโมเดล มาถึงสมุทรปราการ กกต.มีแนวทางในการสร้างความเชื่อมั่นการบริหารจัดการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรมได้อย่างไร