"คุณหญิงกัลยา” เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง แก้จน อย่างยั่งยืน

นางดรุณวรรณ  ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และโฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะจัดแถลงข่าวโครงการจัดการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ ภายใต้แนวคิด น้ำเพื่อชีวิต: ปลูกน้ำ ปลูกความคิด สร้างวิถีชีวิตพอเพียง เพื่อเดินหน้าโครงการอย่างเต็มรูปแบบ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นประธานในพิธี ซึ่งการบริหารจัดการน้ำเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาที่สำคัญ 2 ด้านคือภัยแล้ง และอุทกภัย โดยส่วนหนึ่งของนโยบายในการบริหารจัดการน้ำคือ การบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการนำศาสตร์ของพระราชามาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ

ในงานดังกล่าวจะมีการเชิญภาคีเครือข่ายมาร่วมแสดงจุดยืนขับเคลื่อนโครงการฯ โดยเฉพาะมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ที่มีนายโชติ โสภณพนิช เป็นประธานและได้ให้การสนับสนุนงบประมาณตั้งต้นในการดำเนินโครงการฯ จำนวน 100 ล้านบาท รวมถึงเครือข่ายอาชีวะเกษตรที่จะเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนโครงการฯ ทั้ง 47 แห่งทั่วประเทศ ที่สำคัญคือตัวแทนปราชญ์ชุมชน “ป้าน้อย” ผู้นำการจัดการน้ำชุมชนบ้านลิ่มทอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีผลงานโดดเด่นในการบริหารจัดการน้ำชุมชนจนได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ประจำปี 2554 และ 2557 และร่วมพูดคุยกับนายสุรบถ หลีกภัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในประเด็น Water of Life for New Gen เพื่อทำแคมเปญผลิตสื่อโฆษณาเพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักน้ำสำหรับคนรุ่นใหม่

“เป้าหมายหลักของโครงการฯ ที่คุณหญิงกัลยาย้ำเสมอ คือต้องช่วยแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน ให้มีน้ำใช้ช่วยแก้ปัญหาความยากจน โดยนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ หัวใจสำคัญคือชุมชนต้องมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ต้อง”เข้าใจ” และ “อยากทำ” รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการภายใต้การกำกับดูแลของคุณหญิงกัลยา จะทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์ความรู้ ผ่านกลไกของวิทยาลัยเกษตรทั้ง 47 แห่ง เป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องการจัดการน้ำที่สำคัญ และจะขยายผลไปยังโรงเรียนการศึกษาพิเศษอีก 176 แห่งทั่วประเทศ และจะมีการหลักสูตรสร้างชลกร คือผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ เพื่อช่วยสอนชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการจัดการน้ำในชุมชน ให้สามารถดำเนินการต่อเองได้” นางดรุณวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ โครงการฯ ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์โครงการฯล่าสุดได้มีการนำอาจารย์จากวิทยาลัยเกษตรนำร่องทั้ง 5 แห่ง ไปลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน จากสถาบันบริหารจัดการน้ำชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ รวมถึงไปเยี่ยมชมโมเดลการจัดการน้ำชุมชนต้นแบบ บ้านลิ่มทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการน้ำ ทำให้คนในชุมชนมีอาชีพมีน้ำใช้ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการต่อไป