“อัจฉริยะ”จี้ 7 คดีทุจริตฟุตซอล ค้างเติ่งที่‘อัยการ’นาน 5 เดือน

23 พ.ค. 2563 | 06:40 น.

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือ จี้ “อสส.” เร่งคดี “วิรัช รัตนเศรษฐ” กับพวกคดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลโคราช 7 สำนวน หลังป.ป.ช. ส่งเรื่องให้นาน 5 เดือนแต่ไม่คืบ ชี้หากเห็นแย้ง ป.ป.ช.สั่งฟ้องเองได้ภายใน 90 วัน

กรณีที่มีประชาชนร้องเรียนชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้เร่งรัดคดี นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับพวกในคดีทุจริตงบสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดและส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน แต่จนปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ยื่นหนังสือถึง นายวงศ์กุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสูด (อสส.) เพื่อเรียกร้องขอให้เร่งรัดคดี นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับพวก ในคดีทุจริตงบสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา เขตพื้นที่การศึกษา 2

 

คดีฟุตซอลไม่คืบ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีทุจริตงบสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ใช้ระยะเวลาเกือบ 8 ปี ในการสอบสวน กระทั่งเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ชี้มูลความผิด นายวิรัช รัตนเศรษฐ กับพวก เป็นสํานวนคดีแรก

ต่อมาวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เพิ่ม พร้อมกับส่งอัยการสูงสุดอีก 6 สํานวน ซึ่งอัยการสูงสุด(อสส.) หลังจากรับเรื่องแล้วได้ส่งมอบต่อให้สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามทุจริต 2 รัชดาภิเษก โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ อิสริยะวิญญู เป็นอัยการพิเศษฝ่ายที่รับผิดชอบดูแลคดีนี้

หลังจากผ่านมา 5 เดือน คดีดังกล่าวยังไม่มีการดำเนินการหารือร่วมกันระหว่าง อัยการกับ ป.ป.ช. ตนจึงต้อง การมาเร่งรัดติดตามคดี เพราะไม่อยากให้คดีที่มีผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ฝั่งรัฐบาลมีความล่าช้าหรือหลุดคดี จนทำให้สังคมเกิดข้อกังขาเหมือนที่ผ่านมา และต้องการให้กระบวนการยุติธรรมเกิดความศักดิ์สิทธิ์

 

“อัจฉริยะ”จี้ 7 คดีทุจริตฟุตซอล ค้างเติ่งที่‘อัยการ’นาน 5 เดือน

 

เห็นแย้ง-ป.ป.ช.ส่งฟ้องเองได้

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ถ้าอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องตามกฎหมายป.ป.ช.ต้องยื่นฟ้องเองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่หาข้อยุติร่วมกันไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช.และอัยการสูงสุด ยังไม่ได้หารือร่วมกัน

 

ตามขั้นตอนหลัง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเสร็จสิ้นแล้ว ป.ป.ช.ต้องยื่นเรื่องมายังอัยการสูงสุด ถ้าอัยการฯ เห็นแย้ง ป.ป.ช. ทั้ง ป.ป.ช.และอัยการสูงสุดต้องหารือร่วมกัน กรณีมีความเห็นแย้งกันอีก ทางป.ป.ช.สามารถไปฟ้องเองได้ภายใน 90 วัน นับจากวันที่มีความเห็นแย้งกัน แต่ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้หารือกัน จึงทำอะไรไม่ได้

“โดยหลักหลังรับเรื่องจะไม่มีกรอบระยะเวลากำหนดต้องสั่งฟ้องภายในกี่วัน แต่อัยการต้องสั่งฟ้อง เมื่อไม่หารือ คดีก็ไม่จบ ป.ป.ช.ก็ส่งฟ้องไม่ได้ ปัญหาจึงอยู่ที่จะประวิงเวลาอีกกี่วันกี่เดือนกี่ปี คดีไม่ มีอายุความ แต่สอบมา 8 ปี แม้คดีจะไม่หมดอายุความ แต่ปัญหาทำไมไม่ทำสักที ดึงเวลาเอาไว้ทำไม” นายอัจฉริยะ กล่าว

 

ชงอสส.สั่งการต่อ

ด้านนายจิตภัทร พุ่มหิรัญ อัยการประจำกอง สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ 4 ซึ่งเป็นเป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียนจากนายอัจฉริยะ กล่าวยืนยันว่า ในแต่ละคดีอัยการมีกรอบระยะเวลาการทำงานอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละคดี แต่ขณะนี้จะอยู่ในขั้นตอนใดต้อง ตรวจสอบไปยังนายพงษ์ศักดิ์ อัยการที่รับผิดชอบอีกครั้ง

เบื้องต้นหลังรับหนังสือจากนายอัจฉริยะแล้ว จึงจะนำเรื่องเสนอต่อ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป

 

 

ย้อนเส้นทางคดีฟุตซอล

สำหรับ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ ปัจจุบันเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล หรือ “ประธานวิปรัฐบาล” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล

คดีทุจริตงบสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา เกิดขึ้นในช่วงที่มีการจัดทำงบประมาณปีงบประมาณ 2555 ขณะที่นายวิรัช สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยเมื่อวันที่ 6  สิงหาคม 2562 ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายวิรัช พร้อมด้วยส.ส.พลังประชารัฐ 2 คือ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ภรรยานายวิรัช) และ ทัศนาพร เกษเมธีการุณ (น้องสาวทัศนียา) ส.ส.นครราชสีมา เขต 8 และพวกรวม 24 ราย มีความผิดกรณีทุจริตการจัดสรรงบประมาณเพื่อทำการก่อสร้างสนามฟุตซอล ในพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพฐ.) ในจังหวัดนครราชสีมา

นายวิรัชและนางทัศนียา มีมูลความผิดฐานฝ่าฝืนข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 168 และมีมูลความผิดอาญาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และประมวลกฎหมายอาญา

ส่วนทัศนาพร มีมูลความผิดอาญาตาม พ.ร.ป. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,577 หน้า 12 วันที่ 24 - 27 พฤษภาคม 2563