“องคมนตรี” ตำแหน่งนี้ มิใช่ใครก็เป็นได้

06 พ.ค. 2563 | 11:59 น.

 

พลันที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง นายนุรักษ์ มาประณีต อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองคมนตรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

 

นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ออกโพสต์เฟซบุ๊กทันควัน ร่ายยาวถึงผลงานของ นายนุรักษ์ เมื่อครั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีเจตนาเน้นไปที่กรณีการยุบพรรค ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

 

โดยข้อความที่ นายปิยบุตร โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่า "วันนี้ (4 พฤษภาคม 2563) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง นายนุรักษ์ มาประณีต เป็นองคมนตรี อนึ่ง นายนุรักษ์ มาประณีต เป็นตุลาการรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 111 คน เป็นเวลา 5 ปี เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ สมัคร สุนทรเวช พ้นจากนายกรัฐมนตรี, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค รวม 109 คน เป็นเวลา 5 ปี, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เรื่องที่มา ส.ว.ตกไป, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านตกไป, เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 ไม่ชอบ

เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรี, เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี, เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, และล่าสุด...ผลงานสุดท้าย ก่อนพ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ คือ ยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี"

นอกจากนี้ อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยังได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า "ในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ เสียงข้างมาก 7 คน ให้ยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค โดย 6 คน ให้เพิกถอน 10 ปี และ 1 คน คือ นายนุรักษ์ มาประณีต ให้เพิกถอนไม่มีกำหนด นี่คือความเห็นของนายนุรักษ์ครับ"

                                                                       ศรีสุวรรณ จรรยา                                                                 

 

ซัด"ปิยบุตร"อย่าก้าวล่วง

ถัดมาอีกวัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาท้วงติงนายปิยบุตร ที่ได้วิจารณ์เรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า แม้โพสต์ของนายปิยบุตร จะไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ มากไปกว่าความพยายามจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลงานการวินิจฉัยในคดียุบพรรค และคดีทางการเมือง ที่นายนุรักษ์ มีส่วนร่วมในองค์คณะ ซึ่งมีผลกระทบในทางการเมืองสูง และสร้างความไม่พอใจให้กับบุคคลในพรรคการเมืองบางฝ่ายมาตลอด

แต่สิ่งที่นายปิยบุตรไม่ยอมพูดถึง หรืออธิบายให้สังคมรับรู้ไปในคราวเดียวกันก็คือ พฤติการณ์และการกระทำของนักการเมือง และพรรคการเมืองต่างๆ เหล่านั้น รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยนั้น เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย "ขัดรัฐธรรมนูญ" หรือไม่อย่างไรด้วย

 นายปิยบุตร เคยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายรัฐธรรมนูญ ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า พฤติการณ์และการกระทำใดที่เข้าข่ายต้องถูกยุบพรรค และหรือตัดสิทธิทางการเมืองตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ อย่าแสร้งเขียนแบบ เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เพราะในยุคสารสนเทศโซเชียลมีเดียเยี่ยงนี้ นักการเมืองทำอะไร คิดอะไร ชาวบ้านเข้ารู้ทันกันหมดแล้ว

“ที่สำคัญ การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรีนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.10 ประกอบ ม.11 บัญญัติไว้ทุกประการ ว่าให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยโดยชอบด้วยแล้ว ไม่ควรที่จะมีบุคคลใดไปก้าวล่วงพระราชอำนาจดังกล่าวของพระองค์ท่าน ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่เช่นนั้น อาจหมิ่นเหม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาเข้าไปอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้วิจารณ์ หรือผู้ใดที่จะใช้กุศโลบายตีวัวกระทบคราดใดๆ ทั้งสิ้น”

 

+เตือน“ปิยบุตร”ไม่พึงกระทำ

ขณะที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  ไม่น่าเชื่อว่า นายปิยบุตร ซึ่งเป็นถึงอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ สอนกฎหมายมหาชน จบการศึกษาสูงจากประเทศฝรั่งเศส  แต่ก็ไม่ได้ทำให้เป็นคนมีจิตใจสูงเสมอไป การวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นองคมนตรี ทำให้เกิดคำถามถึงจรรยาบรรณของความเป็นครูอาจารย์ และจรรยาบรรณของนักการเมืองผู้ที่อ้างว่ามีความคิดก้าวหน้าเลิศเลอ และต้องถามถึงเจตนาของนายปิยบุตรว่า ต้องการอะไร มีเจตนาพิเศษอะไรหรือไม่ และต้องการให้บุคคลที่ชื่นชอบศรัทธาตามแนวทางการเมืองของตนให้เข้าใจในกรณีการแต่งตั้งองคมนตรีนี้ไปในทิศทางใด เป็นบวกหรือเป็นลบกับประเทศชาติ เป็นการสร้างสรรค์สังคมหรือกัดเซาะสถาบันใดหรือไม่ รวมทั้งมีเจตนาซ่อนเร้นเป็นนัยทางการเมืองประการใด

ทั้งที่จริงๆ แล้ว นายปิยบุตร ควรมีจรรยาบรรณและมารยาททั้งทางวิชาการและการเมือง กอปรกับรัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับก็เขียนไว้ชัดเจนแล้วว่าการแต่งตั้ง หรือให้พ้นจากตำแหน่งองคมนตรี เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยขององค์พระมหากษัตริย์ เมื่อรัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนี้มาแต่โบราณ การที่นายปิยบุตร เขียนเฟซบุ๊ก เหน็บแนมบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ เพื่อชักจูงจิตใจผู้หลงศรัทธาตนให้เกิดความคล้อยตามในจิตอคติเฉพาะตน จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่บุคคลผู้เป็นอาจารย์ และผู้นำทางการเมืองจะกระทำเยี่ยงนี้

"นายปิยบุตร อาจไม่ชอบใจผลงานของนายนุรักษ์ มาประณีต อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญในบางเรื่อง เช่น ผลงานการยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ก็เป็นเพียงอคติส่วนตัว แต่การมากระแนะกระแหน เหน็บแนมบุคคลที่ ได้รับการแต่งตั้งเป็นองคมนตรี นับเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำในสังคมไทย และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง" นายวัชระ ระบุ

 

 

                                                                 ศุภมาส เสนะเวส                                                       

+“ปิยบุตร”อย่าเหิมเกริม

เช่นเดียวกับ นางสาวศุภมาส เสนะเวส  ศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แกนนำกลุ่ม ฬ รักชาติ และอดีตผู้ก่อตั้งขบวนผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง หรือ WeMove ได้เขียนบทความในหัวข้อเรื่อง “#องคมนตรี” ระบุว่า

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

มาตรา 10 พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรีคนหนึ่งและองคมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 18 คน ประกอบเป็นคณะองคมนตรี

ฯลฯ

มาตรา​ 11 การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรีหรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย

 

รายนามคณะองคมนตรี

1. พลเอกสุรยุทธ จุลลานนท์ ประธานองคมนตรี

2. ศาสตราจารย์นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย

3. นายพลากร สุวรรณรัฐ

4. นายอรรถนิติ  ดิษฐอำนาจ

5. นายศุภชัย ภู่งาม

6. พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข

7. พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา

8. พลเอกดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ

9. นายจรัลธาดา กรรณสูต

10. พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์

11. พลเรือเอกพงษ์เทพ หนูเทพ

12. นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา

13. นายอำพน  กิตติอำพน

14. พลเอกเฉลิมชัย  สิทธิสาท

15. พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง

16. นายนุรักษ์ มาประณีต

หน้าที่ขององคมนตรีหลัก ๆ คือเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ และหน้าที่อื่นตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

นับแต่อดีตจวบจนปัจจุบันพระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชภาระและพระราชกรณียกิจหลากหลายประการ

หากพิจารณาด้วยจิตใจของวิญญูชน ผู้มีสติ ผู้มีปัญญา เราจึงจะเห็นได้ว่า คณะองคมนตรีนั้น ล้วนประกอบด้วยอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้มีความรู้ความสามารถและประการณ์อันที่ยอมรับในหลากหลายสาขา

ทั้งการทหาร รัฐศาสตร์ วิชาการ-แพทย์ กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงินการคลัง การบริหารจัดการ แม้แต่การเกษตร และหลายท่านเป็นผู้สนองงานในโครงการพระราชดำริมายาวนาน

ฉะนั้น การแต่งตั้งองคมนตรีนอกจากจะเลือกสรรมาจากข้าราชการระดับสูงที่รับใช้ประเทศชาติมาอย่างมีเกียรติ เป็นคนดี ไม่ด่างพร้อยมัวหมองแล้ว ก็ยังเลือกผู้ทรงคุณวุฒิที่มีวุฒิความรู้ตามที่พระมหากษัตริย์ประสงค์จะปรึกษา โดยมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

จึงไม่ใช่เรื่องที่มันผู้ใดจะมาใส่ร้ายป้ายสีโยงใย ว่าเป็นการปูนบำเหน็จจากการทำงานเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะ #ที่เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ

การที่ผู้พิพากษาหรือตุลาการ ผู้มีความเที่ยงธรรมตัดสินพิพากษาอรรถคดีใดก็ตาม ย่อมมาจากทัศนะและประสบการณ์ของตนโดยพิจารณาจากเรื่องราว ข้อเท็จจริง และการตีความกฎหมาย

การกล่าวหาทำนองว่า การพิพากษา วินิจฉัยคดีต่าง ๆ อันเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองและนักการเมือง ผู้มีพฤติการณ์อันขัดต่อกฎหมายอย่างโจ่งแจ้ง แล้วตัดสินให้การกระทำนั้นๆ เป็นความผิดและลงโทษตามกรอบกฎหมายของผู้พิพากษาหรือตุลาการแต่ละท่าน ว่าเป็นการกลั่นแกล้งไม่ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ ฯลฯ

ก็เป็นธรรมดาของผู้กระทำผิดและอาชญากรทุกคน ที่ไม่ยอมรับผิด ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี

แต่การพยายามสร้างเรื่องลดเลี้ยวอันมีนัยยะสำคัญ ว่าเป็น #ผลงาน ของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นองคมนตรี นั้น

ดูจะเป็นการเหิมเกริมและความคิดสกปรกมากเกินไป

#มากกว่าเหล่าอาชญากรเสียอีก

ซึ่งไม่น่าจะเป็นความคิดเห็นของผู้ที่เป็นนักวิชาการระดับปริญญาเอก!!!

อันที่จริงแล้ว ผู้บริหารระดับสูงทุกคน การที่จะเลือกใครสักคนมาเป็นผู้ร่วมงาน ย่อมต้องการผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์ วิสัยทัศน์ ที่สอดคล้องต้องกันไปในทิศทางเดียว

ฉันใดก็ฉันนั้น หากจะทำงานสร้างชาติ พัฒนาชาติ ก็แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้ ที่จะเลือกคนชังชาติ คิดทำลายชาติ ล้มล้างระบอบ เข้ามาร่วมทีม!!!

ท้ายที่สุดนี้ อยากฝากคำถามไปยังนักวิชาการสายชังชาติทั้งหลาย ว่า

สมมตินะคะ สมมติ ถ้าพระองค์ท่านติดต่อมาให้ไปเป็นที่ปรึกษา

#จะกล้ารับหรือไม่???????